สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน อาหาร วิธีเลี้ยง [พร้อมราคา]

ข้อมูลทั่วไปสำหรับสุนัขพันธุ์​ปอมเมอเรเนียน

ปอมเมอเรเนียน หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ปอม” เป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์ทอย เช่นเดียวกับ ปอมเมอเรเนียน ชิสุห์ เฟรนช์บูลด็อก หรือปั๊ก โดยปอมเมอเรเนียนมีจุดเด่นอยู่ที่ขนฟู ๆ หางเป็นพวง และตาแป๋ว ๆ ซึ่งไม่ว่าใครเห็นก็อยากเข้าไปกอด เชื่อว่าตอนนี้ทาสหมาหลาย ๆ คน กำลังสนใจและเล็งหาฟาร์มดี ๆ มาซื้อปอมมาเลี้ยงอยู่แน่ ๆ วันนี้ Yora Thailand เลยเตรียมคู่มือการเลี้ยงปอมเมอเรเนียน พร้อมลิสต์ฟาร์มในไทย ที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 บาทมาฝากด้วย มาเริ่มกันเลย!

ภาพรวมน้องหมาปอมเมอเรเนียน

น้ำหนักเฉลี่ย	1.5-3 กิโลกรัม
ส่วนสูงเฉลี่ย	18-30  เซนติเมตร
อายุขัยเฉลี่ย	12-16 ปี
ลักษณะขน	ขน 2 ชั้น ยาวและหนา
สีขน	สีดำ น้ำตาล ช็อกโกแลต เทาหม่น ขาว แทน หรือสีแซมกันสองสี
นิสัย	ร่าเริง แอคทีฟ กระตือรือร้น ชอบเข้าสังคม
โรคที่ต้องระวัง	โรคผิวหนังสีดำ (Black Skin Disease) โรคท่อลมตีบ (Tracheal Collapse) โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation)

---

ประวัติของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

แม้ปอมเมอเรเนียน จะถูกนับว่าเป็นสุนัขพันธุ์ทอยด้วยโครงสร้างที่เล็กจิ๋ว แต่แท้จริงแล้ว น้อง ๆ สืบทอดสายพันธุ์มาจากพี่ใหญ่อย่าง ตระกูลสปิตซ์ (Splitz) และ ซามอยด์ (Samoyed) ซึ่งเป็นตระกูลสุนัขสายพันธุ์นอร์วีเจียน ซึ่งจุดเด่นเฉพาะของสายพันธุ์เหล่านี้คือ หน้ายื่น หูตั้ง ขนหนา

คล้ายคลึงกับปอมเมอเรเนียนอยู่ไม่น้อย

ในอดีต ปอมเมอเรเนียนถูกเลี้ยงไว้ทั้งเป็นสุนัขลากเลื่อนและเป็นสุนัขประจำบ้าน โดยบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เคยเลี้ยงปอมได้แก่ พระราชินีวิคเตอเรีย (Queen Victoria) นักศาสนศาสตร์มาร์ติน ลูเทอร์ (Martin Luther) และศิลปินชื่อก้องโลกอย่าง โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ก็เคยเลี้ยงเช่นกัน โดยเป็นปอมเพศเมีย ชื่อ “Pimperl” ต่อมาปอมเมอเรเนียนได้รับการขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ครั้งแรกโดย American Kennel Club (AKC) ในปี 1898

ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

ตามพื้นฐาน ปอมเมอเรเนียนจะมีนิสัยตื่นตัว อยากรู้อยากเห็น และชอบพบปะผู้คนใหม่ ๆ ตลอดเวลา แม้ภายนอกปอมเมอเรเนียนจะดูเป็นคุณหนู บอบบาง แท้จริงแล้วพวกมันเป็น สุนัขที่มีความฉลาด เอาแต่ใจช และมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนในบางครั้งน้อง ๆ คิดว่าตัวเองตัวใหญ่และไปข่มพี่หมาพันธุ์ใหญ่ในบางครั้งได้ ดังนั้น เจ้าของจึงควรปรับพฤกติกรรมการเข้าสังคมของปอมเสียตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้น้องอยู่ร่วมกับหมาตัวอื่นได้ อีกข้อนึงของคือ ปอมเห่าเก่งมาก โดยน้องจะเห่าเมื่อมีสิ่งไม่ปล่อยภัยหรือปัจจัยมากระตุ้นให้น้อง ๆ เห่า ปอมจึงขึ้นชื่อเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีไม่แพ้หมาพันธุ์ใหญ่เลย

มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

เมื่อเลือกซื้อสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สิ่งที่คือต้องสังเกตุคือ ขนาดตัว ลักษณะใบหน้า และสีขน โดยปอมเมอเรเนียนมีลำคอและช่วงหลังค่อนข้างสั้น และมีหางวางอยู่ตำแหน่งสูงราบบนหลัง เวลาเดิน ขาหน้าต้องเหยียดตรง ไม่งอ ไม่พับ และขาหลังไม่ถ่างออก ต่อมาคือลักษณะใบหน้า โดยตามลักษณะสายพันธุ์แล้ว ปอมเมอเรเนียนมีลักษณะใบหน้าทั้ง 3 แบบ ได้แก่

1. ปอมเมอเรเนียนหน้าหมี (Teddy Bear) จุดเด่นคือ กระบอกปากสั้นกลม ดวงตาใกล้กันและห่างจากปากไม่มาก ซึ่งปอมหน้าหมี ถือเป็นลักษณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

2. ปอมเมอเรเนียนหน้าตุ๊กตา (Baby Doll) จุดเด่นคือ กระบอกปากสั้น ดวงตาจะห่างจากปากมากกว่าปอมหน้ามีอยู่เล็กน้อย และมีใบหน้าที่แบนกว่า

3. ปอมเมอเรเนียนหน้าจิ้งจอก (Fox Face) จุดเด่นคือ กระบอกปากยาวและแหลมเหมือนสุนัขจิ้งจอก

ในเรื่องของสีขน โดยอ้างอิงจากมาตรฐานสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตาม American Kennel Club แล้ว ปอมมีหลากหลายสีมากกว่า 23 สี และ 9 รูปแบบลวดลายขน โดยสีที่พบเห็นบ่อย ๆ คือ สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม สีส้ม สีแดง สีขาว และสีดำ โดยสีลายเสือหินอ่อน (brindle merle) หรือ สีน้ำตาลเข้มลายหินอ่อน (liver merle) จะถือว่าไม่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสายพันธุ์

ปอมเมอเรเนียน VS ปอมทีคัพ (T-Cup)

อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าสุนัขสายพันธุ์เล็ก รวมถึงปอมเมอเรเนียน จะถูกจัดในประเภทสุนัขพันธุ์ทอย (Toy Dog) ตามมาตรฐานของ American Kennel Club (AKC) อยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันจะมีผู้เพาะพันธุ์พยายามเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์ Toy ให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมอีก และเรียกสุนัขตัวจิ๋วเหล่านั้นว่า T-cup หรือ Tea Cup ซึ่งน้อง ๆ มีขนาดเล็กจนวางไว้ในถ้วยชาได้นั่นเอง

โดยปอมเมอเรเนียน ทีคัพ เป็นสายพันธุ์ทีคัพที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งน้อง ๆ จะขนาดอยู่ที่ 0.9 - 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น จะไม่โตไปกว่านี้ แม้จะเพาะพันธุ์ขายดิบขายดีตามฟาร์มอยู่บ่อย ๆ แท้จริงแล้วปอมทีคัพ ถือว่าเป็นลักษณะร่างกายที่บกพร่อง และผิดมาตรฐานสายพันธุ์ ทำให้ไม่สามารถส่งประกวดได้ และมีความบอบบางกว่าปอมเมอเรเนียนทั่วไปมาก จึงตามมาด้วยปัญหาสุภาพต่าง ๆ เช่นหัวใจล้มเหลว ฟันอ่อนแอ หรือขาดน้ำตาลในเส้นเลือด ดังนั้นปอม ทีคัพ จึงไม่ควรนำมาเพาะพันธุ์ต่อ โดยเฉพาะตัวเมีย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อแม่พันธุ์และลูกได้ ทาสหมาที่อยากเลี้ยงปอม ทีคัพ จึงควรทบทวนดี ๆ ว่าสามารถเลี้ยงน้อง ๆ ได้หรือไม่ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

ปอมเมอเรเนียนขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก (Toy) ซึ่งมีอายุยืนยาวกว่าสุนัขขนาดกลาง โดยอายุน้อง ๆ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 ปี และอาจสูงถึง 20 ปีถ้าได้รับการดูแลอย่างดี อย่างไรก็ตาม น้อง ๆ มี 3 ปัญหาด้านสุขภาพหลัก ๆ ที่ต้องสังเกต

โรคผิวหนังสีดำ (Black Skin Disease) ถือว่าเป็นโรคที่มาคู่กับสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นอาการที่น้อง ๆ ขนร่วงเลยไม่ทราบสาเหตุ และมีจี้ดำตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย ซึ่งสาเหตุทางสัตวแพทย์ยังไม่พบอย่างแน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากไทรอยด์หรือความไม่สมดุลทางฮอร์โมนต่าง ๆ ซึ่งในบางรายก็จะรับยาปรับฮอร์โมน หรือในบางรายหมอก็จะพิจารณาให้ทำหมัน

โรคท่อลมตีบ (Tracheal Collapse) พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก ในรายที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน โดยอาการที่พบบ่อย ๆ คือ ไอคล้ายเสียงห่าน ในเวลาตื่นเต้นหรือเวลาออกกำลังกาย หายใจลำบาก หรือในบางครั้งกินเร็ว ๆ ก็ทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่สัตวแพทย์จะให้รักษาทางยา ไม่ว่าจะเป็นการกิน ฉีด หรือการพ่น ควบคู่กับการลดน้ำหนักตัว

โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) เกิดจากการที่ลูกสะบ้าเคลื่อนที่ไปในจุดที่ผิดปกติ ทำให้ปอมเมอเรเนียนร้องปวด เคลื่อนที่ได้ลำบาก และขาโก่งงอ และจำเป็นต้องเข้ารักษาด้วยการผ่าตัด ตามมาด้วยกายภาพบำบัด โดยเบื้องต้นให้หลีกเลี่ยงไปเดินหรือวิ่งในพื้นลื่น ๆ คุมน้ำหนักตัว และหมั่นเล็มขนที่ฝ่าเท้าให้เรียบอยู่ตลอด

---

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

น้ำหนักตามมาตรฐานของปอมจเมอเรเนียนจะอยู่ที่ 1.9 - 3.5 กิโลกรัม โดยปริมาณอาหารหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและช่วงอายุ ซึ่งปอมไม่ควรอ้วน เพราะจะทำให้เกิดปัญสุขภาพต่าง ๆ ง่ายมาก และควรได้รับสารอาหารที่บำรุงขนน้อง ๆ ให้ฟูฟ่องสวยงามอยู่ตลอด

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ช่วงอายุ 4-7 เดือน

ปอมเมอเรเนียนวัยเด็ก มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) สูง ดังนั้นในช่วงหย่านมใหม่ ๆ ปอมเมอเรเนียนควรแบ่งกินวันละ 4 มื้อ โดยปริมาณสัดส่วนตามน้ำหนักของน้อง ๆ ซึ่งในช่วงแรก ๆ อยู่ที่ 1-2 กิโลกรัม จึงควรได้รับสารอาหารในปริมาณ ¾ ถึง 1 ½ ถ้วย และสามารถกินอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขสายพันธุ์รวมได้ และให้เพิ่มนมอุ่น ๆ เพื่อให้น้อง ๆ กินง่ายขึ้น

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน โตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป

เมื่อปอมเมอเรเนียนโตขึ้น ให้ลดสัดส่วนจาก 4 มื้อเป็น 2-3 มื้อต่อวัน และหลีกเลี่ยงการผสมอาหารสดกับอาหารแห้งเพื่อให้ระบบย่อยของปอมไม่สับสนและเกิดแก็สในกระเพาะอาหาร โดยเน้นไปที่สารอาหารประเภทโปรตีนสูง ซึ่งจะช่วยให้พลังงานดีและไม่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวน้อง ๆ รวมถึงสารอาหารประเภทกรดไขมันโอเมก้า 3,6 และ DHA ซึ่งจะเน้นไปที่การบำรุงขนให้เงา สวย ไม่ขาดหลุดร่วง โดย Yora อาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม มีสูตรสำหรับสุนัขสายพันธุ์เล็ก ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนจากแมลงสูงถึง 24% และมีไขมันดีสูง ถึงช่วยให้ระบบย่อยของปอมแข็งแรง รวมถึงมีโอเมก้าสูง ช่วยบำรุงขนของปอมเมอเรเนียนให้เงา สวย ไปนาน ๆ

อาหารที่เหมาะกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สูงวัย อายุ 7 ปีขึ้นไป

เมื่อปอมเมอเรเนียนเข้าสู่ช่วงสูงวัย ให้ลดปริมาณอาหารลง แต่ยังคงที่ 2-3 มื้อดังเดิม โดยให้ลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ลง แต่เพิ่มจากปลา พืช หรือแมลงมากขึ้น ซึ่งจะดีต่อปอมในวัยแก่ที่มีระบบย่อยอาหารที่เสื่อมลง และเน้นที่ไฟเบอร์หรือวิตามินสูง เพื่อบำรุงให้สุขภาพของแข็งแรง

วิธีการดูแลสุนัขปอมเมอเรเนียน ตั้งแต่เป็นลูกสุนัขจนถึงโตเต็มวัย

การดูแลลูกสุนัขปอมเมอเรเนียน ช่วงอายุ 4-7 เดือน

ในช่วงเด็ก ๆ ปอมเมอเรเนียนจะมีการผลัดขนครั้งแรก ซึ่งเป็นการผลัดขนในปริมาณมาก ซึ่งจะตามมาด้วยขนที่สวยเงางาม ฟูฟ่องอีกครั้งเมื่อโตขึ้น ดังนั้นเจ้าของควรเริ่มแปรงขนในช่วงแรกที่เริ่มผลัดขน ในส่วนของการออกกำลังกาย ลูกปอมไม่ต้องการการออกกำลังกายหนักมาก เพียงแค่เดินเล่นบริเวณรอบบ้าน ฝึกคำสั่งพื้นฐานเพื่อปรับพฤกติกรรมและหลีกเลี่ยงการเดินตามพื้นลื่น ๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

การดูแลสุนัขปอมเมอเรเนียนโตเต็มวัย ช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป

ข้อดีของปอมเมอเรเนียน คือแม้จะขนยาว หนา ถึง 2 ชั้น น้อง ๆ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำหรือดูแลขนบ่อย ๆ เหมือนสุนัขขนยาวพันธุ์อื่น ๆ โดยอย่างน้อยให้แปรงขนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ควรแปรงขนทุกวันเมื่ออยู่ในฤดูผลัดขน ที่สำคัญ ไม่ควรโกนขนปอมเมอเรเนียนเด็ดขาดเพราะจะทำให้ผิวหนังของปอมสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมหรือภัยอันตรายได้ง่าย ในส่วนของการออกกำลังกาย เพียงการเดินเล่นเบา ๆ รอบบ้าน หรือในสวนเล็ก ๆ ก็เพียงพอ และเน้นไปที่การใช้ของเล่นซึ่งจะทำให้ปอมเมอเรเนียนรู้สึกสนุกสนานขึ้น

ราคาหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

เมื่อคุณคิดว่าหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน คือหมาพันธุ์ที่ใช่สำหรับคุณแล้ว เรามาดูเรื่องราคากันดีกว่า ราคาสำหรับสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสีของพวกมัน ส่วนมากจะอยู่ที่ช่วงราคา 3,000 - 20,000 บาท สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าต้องการที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ วันนี้ Yora ได้เตรียม ลิสฟาร์มในประเทศไทย ที่มีทั้งปอมเมอเรเนียนราคาไม่เกิน 3,000 และทั้งปอมเมอเรเนียนราคาแพง มาให้เพื่อน ๆ ได้ไปเลือกซื้อน้องมาเลี้ยงกันได้เลย

5 อันดับฟาร์มปอมเมอเรเนียน ยอดนิยมในประเทศไทย

• ปอมปอม ปอมเมอเรเนียน ปอมหน้าหมี ปอมแท้ ฟาร์มปอม By Hero's Pom

• SincerePom Pomeranian THA

• Puppy Donmueang By Kwang-ชิสุ ปอม ชิวาว่า และ Pet Shop

• CHICK DOG FARM

• ฟาร์มสุนัขเอมมี่โกลด์ - ฟาร์มปอมเมอเรเนี่ยนแท้ เชียงราย

---

ปอมเมอเรเนียน เจ้าหมาพันธุ์ทอยที่สืบเชื้อสายหมาจากสุนัขลากเลื่อน พันธุ์ใหญ่ ๆ อย่างสปิตซ์ (Splitz) และซามอยด์ (Samoyed) น้อง ๆ เป็นอีกสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาแสนน่ารัก นิสัยฉลาด ตัวเล็กพกพาง่าย แถมราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การดัดแปลงสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ทีคัพ ตามมาด้วยหลากหลายปัจจัยสำคัญที่ผู้เลี้ยงต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ และอีกเรื่องสำคัญคือการบำรุงขนของปอมเมอเรเนียน ซึ่งหลัก ๆ มาจากอาหารการกิน ทางเราแนะนำ Yora อาหารหมาเกรดพรีเมี่ยมจากอังกฤษ อุดมไปด้วยโปรตีนจากแมลงสูง และโอเมก้า 3,6 ซึ่งช่วยบำรุงขนของน้องปอมให้สวย เงางาม ไม่แพ้ตัวอื่น ๆ แน่นอน