
การฉีดวัคซีนถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบสำคัญที่สุดของเจ้าของสุนัข เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องสุนัขแสนรักของเพื่อน ๆ จากโรคร้ายแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในชุมชนอีกด้วย
แต่สำหรับทาสหมามือใหม่แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าวัคซีนสุนัขมีอะไรบ้าง และควรพาน้องหมาไปฉีดเมื่อไหร่ วันนี้ Yora Thailand จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวัคซีนที่จำเป็นสำหรับสุนัข พร้อมตารางการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วนและเข้าใจง่ายกันครับ ตามไปดูกันได้เลย!
ทำไมต้องฉีดวัคซีนสุนัข?
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด โดยวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายของสุนัขสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สุนัขของเพื่อน ๆ อาจเสี่ยงต่อการติดโรคร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนบางชนิดยังเป็นข้อบังคับตามกฎหมายและเป็นเงื่อนไขสำคัญในการพาสุนัขเข้าพักที่โรงแรมสัตว์เลี้ยง หรือใช้บริการอาบน้ำตัดขนต่าง ๆ อีกด้วย
วัคซีนสุนัขมีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท?
วัคซีนสำหรับสุนัขแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
1. วัคซีนหลัก (Core Vaccines)
วัคซีนประเภทนี้จำเป็นสำหรับสุนัขทุกตัว เนื่องจากป้องกันโรคร้ายแรงที่พบบ่อยและมีอัตราการเสียชีวิตสูง ซึ่งวัคซีนหลักที่มีการบังคับฉีดคือ
วัคซีนพิษสุนัขบ้า (Rabies)
เป็นวัคซีนที่บังคับตามกฎหมาย สุนัขและสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องได้รับวัคซีนนี้
ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงถึงชีวิต
สามารถติดต่อสู่คนได้
ฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 12 สัปดาห์ และกระตุ้นซ้ำทุกปี
วัคซีนรวม 5 โรค (DHPPi+L) ตัวช่วยสำคัญที่เจ้าของหมาต้องรู้จัก!
รู้หรือไม่ว่าวัคซีนรวม 5 โรคนี้เปรียบเสมือนเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมสำหรับน้องหมาของเรา เพราะช่วยป้องกันโรคร้ายที่อาจทำให้น้องหมาป่วยหนักได้ มาทำความรู้จักกับโรคที่วัคซีนตัวนี้ช่วยป้องกันกันดีกว่า
โรคไข้หัดสุนัข (Distemper) - เจ้าตัวร้ายที่น่ากลัวสำหรับน้องหมา โดยเฉพาะลูกหมาตัวน้อย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มมอร์บิลลิไวรัส (Morbillivirus) เชื้อนี้จะเล่นงานทั้งระบบหายใจ ประสาท และทางเดินอาหารของน้องหมา ที่แย่ไปกว่านั้นคือยังไม่มียารักษาโดยตรง ดังนั้นการป้องกันด้วยวัคซีนจึงสำคัญมาก
โรคตับอักเสบติดต่อ (Hepatitis) - โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Canine adenovirus Type 1 (CAV-1) และแพร่กระจายได้ง่ายมากผ่านการสัมผัสน้ำลาย ปัสสาวะ หรืออึของน้องหมาที่ป่วย ถ้าเป็นแล้วจะส่งผลเสียต่อตับอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเจ้าตูบตัวน้อยๆ
โรคลำไส้อักเสบติดต่อ (Parvovirus) - โรคที่ทำให้ทาสหมาใจหายกันเลยทีเดียว เกิดจากการติดเชื้อไวรัสพาร์โว (Parvovirus) หรือโคโรน่าไวรัส (Coronavirus) ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้น้องหมาท้องเสียรุนแรง อาเจียน และขาดน้ำได้ง่าย แถมยังติดต่อกันได้ไวมาก การรักษาก็ทำได้แค่ประคับประคองอาการเท่านั้น
โรคหวัดติดต่อ (Parainfluenza) - โรคนี้เกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย แม้จะดูเหมือนแค่หวัดธรรมดา แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ เพราะอาจลุกลามเป็นปอดอักเสบได้ โรคนี้ติดต่อง่ายผ่านการไอจามของน้องหมาที่ป่วย
โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู - เป็นโรคที่น่ากลัวเพราะติดต่อถึงคนเราได้ด้วย น้องหมามักติดจากการเล่นน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน และถ้าเป็นแล้วอาจถึงขั้นไตวายหรือตับวายได้เลย
ด้วยความร้ายกาจของโรคเหล่านี้ การฉีดวัคซีนรวมจึงเป็นเรื่องที่เจ้าของมองข้าไม่ได้เด็ดขาด! เพราะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในการดูแลสุขภาพน้องหมา เพราะค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนถูกกว่าค่ารักษาเมื่อป่วยหลายเท่า และที่สำคัญคือช่วยป้องกันความเสี่ยงที่น้องหมาจะเสียชีวิตจากโรคร้ายเหล่านี้ด้วย
2. วัคซีนทางเลือก (Non-core Vaccines)
วัคซีนกลุ่มนี้จะพิจารณาฉีดตามความเสี่ยงของสุนัขแต่ละตัว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ
สภาพแวดล้อมที่อาศัย
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การเดินทาง
การสัมผัสกับสุนัขตัวอื่น
ตัวอย่างวัคซีนทางเลือก ได้แก่
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สุนัข (Canine Influenza)
เหมาะสำหรับสุนัขที่ต้องอยู่รวมกับสุนัขตัวอื่นบ่อยๆ
แนะนำสำหรับสุนัขที่ฝากเลี้ยงหรือเข้าโรงเรียนฝึก
วัคซีนป้องกันโรคเห็บ (Bordetella)
ป้องกันโรคไอในสุนัข
จำเป็นสำหรับสุนัขที่ต้องเข้าสถานรับฝากสัตว์เลี้ยง

สรุปมาให้แล้ว! ตารางฉีดวัคซีนสุนัขและการตรวจสุขภาพน้องหมา
ช่วงอายุของสุนัข (สัปดาห์) | ชนิดของวัคซีนสุนัข |
4-6 สัปดาห์ |
|
8 สัปดาห์ |
|
12 สัปดาห์ |
|
16 สัปดาห์ |
|
ทุกปี |
|
คำแนะนำในการพาสุนัขไปฉีดวัคซีน
ก่อนฉีดวัคซีน
ตรวจสุขภาพทั่วไป
สุนัขต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีไข้
ไม่มีอาการป่วยหรือติดเชื้อ
ควรถ่ายพยาธิก่อนฉีดวัคซีน 1-2 สัปดาห์
การเตรียมตัว
งดอาหารก่อนฉีดวัคซีน 4-6 ชั่วโมง
พาสุนัขออกกำลังกายเบาๆ เพื่อลดความเครียด
เตรียมประวัติการฉีดวัคซีนครั้งก่อน (ถ้ามี)
หลังฉีดวัคซีน
สังเกตอาการ 24-48 ชั่วโมงแรก อาการข้างเคียงที่อาจพบ เช่น:
ง่วงซึม
เบื่ออาหาร
มีไข้เล็กน้อย
ปวดบริเวณที่ฉีด
อาจมีลมพิษ หรือบวมที่ใบหน้า อุ้งเท้า
การดูแล
ให้พักผ่อนในที่เย็นสบาย
มีน้ำสะอาดให้ดื่มตลอดเวลา
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ 24 ชั่วโมง
งดออกกำลังกายหนัก 1-2 วัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนสุนัข
Q: น้องหมาเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกตอนอายุเท่าไหร่?
A: น้องหมาควรเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากนมแม่เริ่มลดลง จากนั้นควรฉีดกระตุ้นทุก ๆ 3 สัปดาห์จนถึงอายุ 4 เดือน
Q: ฉีดวัคซีนพร้อมกันหลายตัวได้หรือไม่?
A: ได้ แต่ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดที่เหมาะสม โดยทั่วไปสามารถฉีดวัคซีนรวมพร้อมกับวัคซีนพิษสุนัขบ้าได้
Q: ถ้าพลาดการฉีดวัคซีนตามกำหนดต้องทำอย่างไร?
A: ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดใหม่ บางกรณีอาจต้องเริ่มซีรี่ส์การฉีดใหม่ทั้งหมด
Q: สุนัขท้องแก่ฉีดวัคซีนได้หรือไม่?
A: ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนในสุนัขท้องแก่ ควรรอจนกว่าจะคลอดและให้นมลูกเสร็จแล้ว
Q: สุนัขอายุมากต้องฉีดวัคซีนหรือไม่?
A: ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนตามกำหนด แต่ควรตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อน เพราะสุนัขสูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมากขึ้น
การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุนัขทุกตัว เพื่อป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของวัคซีนและตารางการฉีดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของสุนัขแสนรักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์ตามกำหนดและเก็บบันทึกการฉีดวัคซีนไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อการดูแลสุขภาพที่ต่อเนื่องและยั่งยืนด้วยนะครับ
นอกจากการฉีดวัคซีนตามตารางอย่างเคร่งครัดแล้ว พ่อ ๆ แม่ ๆ อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรงยิ่ง นั่นคือการให้น้อง ๆ ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีคุณภาพ ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์และทุกวัย ไว้ด้วยนะครับ
Comments