top of page
Search

9 ท่าหมานอนบอกนิสัยและความรู้สึกที่ทาสหมาต้องรู้!



เชื่อว่าทุกคนที่เลี้ยงน้องหมาคงเคยได้ยินเรื่องอาการชักในสุนัขกันมาบ้างนะครับ บางคนอาจจะเคยเจอกับตัวเอง หรือได้ยินมาจากเพื่อนที่เลี้ยงหมากันมา วันนี้ Yora Thailand จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องอาการชักในสุนัขกันแบบละเอียดยิบ เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถดูแลน้องหมาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น



 

1. ท่านอนตะแคง (The Side Sleeper)



น้องหมาจะนอนตะแคง ยืดขาทั้งสี่ข้างออกอย่างสบายใจ เป็นท่านอนที่เห็นบ่อยมาก โดยเฉพาะในเจ้าตูบตัวน้อย ๆ หรือสุนัขที่อายุมากหน่อยที่ข้ออาจจะไม่ค่อยดีแล้ว


ความหมาย: สัญญาณของความสบายใจและความปลอดภัย น้องหมาที่นอนในท่านี้มักจะกำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่และหลับลึก เนื่องจากการตะแคงทำให้กล้ามเนื้อทั้งหมดของพวกเขาผ่อนคลาย การที่น้องหมาเลือกนอนท่านี้ยังบ่งบอกอีกว่าเขารู้สึกมั่นใจในสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบตัวมากพอที่จะไม่ต้องคอยระวังหรือปกป้องตัวเอง


นิสัย: โดยส่วนใหญ่ น้องหมาที่ชอบนอนท่านี้จะมีบุคลิกใจเย็น ใจดี เป็นมิตรและชอบเข้าสังคม ไม่ว่าจะกับคนหรือสัตว์ตัวอื่น


2. ท่านอนสิงโต (The Lion’s Pose)



หากใครนึกไม่ออกให้ลองนึกภาพตามรูปปั้นสิงโตที่ชอบอยู่ตามตึก ท่านี้เรียกว่า "ท่าสิงโต" หรือบางคนก็เรียก "ท่าสฟิงซ์" คือน้องจะวางหัวไว้บนอุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้าง หรือบางทีก็หดขาหน้าเข้ามาแล้วเอาขาหลังไว้ด้านข้างตัว


ความหมาย: เวลาที่น้องนอนท่านี้ แปลว่าน้องกำลังพักผ่อนแบบเบา ๆ ไม่ได้หลับลึก มักจะเป็นท่าที่น้องเลือกเวลาที่อยากพร้อมลุกขึ้นได้ทันทีถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกำลังเฝ้าระวังอยู่นิด ๆ นั่นเอง


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่านี้มักจะเป็นหมาที่มีความมั่นใจ มีความซื่อสัตย์ มีสัญชาติญาณในการปกป้องครอบครัวสูง นอกจากนี้ยังแสดงถึงนิสัยที่พร้อมจะทำกิจกรรมอยู่เสมอ อาจเป็นหมาที่ชอบสำรวจและเป็นผู้นำในกลุ่ม แต่ยังคงมีความอ่อนโยนและรักเจ้าของในเวลาเดียวกัน


3. ท่าซุปเปอร์แมน (The Superman)



ท่าซุปเปอร์แมน หรือบางคนก็เรียกกันว่า สปลูท (Sploot) มักจะเห็นบ่อยในลูกสุนัขตัวน้อย ๆ หรือน้องหมาที่ชอบเล่นซน ๆ โดย น้องหมาจะนอนคว่ำ ขาหน้าเหยียดตรงไปด้านหน้า ขาหลังเหยียดไปด้านหลัง ท่าทางดูเหมือนกำลังบินเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ที่พุ่งตัวไปช่วยโลก


ความหมาย: ถึงแม้จะเป็นท่าที่น้องดูเหนื่อยจนต้องนอนแผ่ แต่จริง ๆ แล้วท่านี้บ่งบอกถึง ความผ่อนคลายและความสบายตัว ส่วนใหญ่จะเราจะเห็นน้องหมานอนท่านี้หลังจากเล่นหนักหรือเมื่อพวกเขาต้องการพักร่างกาย แต่ยังคงรู้สึกตื่นตัวและพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเล่นหรือทำกิจกรรมได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ ท่านี้ยังแสดงให้เห็นว่าน้องหมารู้สึกปลอดภัยและสบายใจในสภาพแวดล้อมของเขาอีกด้วย


นิสัย: สุนัขที่ชอบนอนท่า Superman มักจะเป็นน้องหมาพลังงานเยอะ ขี้เล่น และกระตือรือร้น พร้อมสำหรับการผจญภัยในทุกช่วงเวลา เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสี่ขาที่แสนซนและรักความสนุก พร้อมจะเติมเต็มความสดใสให้ทุกวันของคุณด้วยความร่าเริงที่ไม่หยุดนิ่งของพวกเขา


4. ท่านอนขด (The Donut)



เป็นท่านอนของน้องหมาที่นี้น่ารักเอามาก ๆ น้องหมาจะขดตัวเป็นวงกลมคล้ายโดนัท เก็บขาทั้งสี่ไว้ชิดตัว บางทีก็จะงอตัวจนปลายจมูกแตะขาหลัง และบางครั้งก็จะเอาหางมาพาดบนตัวด้วย


ความหมาย: ท่านี้แสดงถึงความต้องการปกป้องตัวเองและการรักษาความอบอุ่น เป็นท่าที่สุนัขมักใช้ในเวลาที่ต้องการพักผ่อนแบบสงบและสบายใจ นอกจากนี้ การขดตัวแบบนี้ยังช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้อบอุ่น โดยเฉพาะในสภาพอากาศเย็น เป็นสัญชาตญาณที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยที่บรรพบุรุษของน้องต้องนอนกลางแจ้ง เผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นและลมแรง


นิสัย: น้องหมาที่ชอบนอนท่า Donut มักจะเป็นสุนัขที่ สงบ สุขุม รอบคอบ และรักความเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เป็นหมาที่ไว้วางใจคุณและรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่ของตัวเอง


5. ท่านอนมุดตัว (The Burrower)



ท่านอนที่น้องหมาจะมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม กองหมอน หรือพื้นที่เล็ก ๆ อย่างใต้โต๊ะ ใต้โซฟา หรือในมุมแคบ ๆ


ความหมาย: ท่านอนแบบนี้แสดงถึงความต้องการความอบอุ่น ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว น้องหมาที่นอนมุดตัวมักจะหาที่ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัยที่สุดเพื่อพักผ่อน การมุดตัวในที่แคบช่วยให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกปกป้องจากสิ่งรอบตัว


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่า Burrower มักจะเป็นหมาที่ขี้อาย ต้องการพื้นที่ส่วนตัว หรืออาจจะมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ารอบตัว ต้องการความรัก ความอบอุ่น ชอบความใกล้ชิดกับเจ้าของ พวกเขามีความสุขที่สุดเมื่อได้ซุกตัวในที่นุ่มสบาย หรือในที่ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเป็นหมาที่มักจะมองหาเจ้าของเมื่อรู้สึกไม่มั่นใจหรือเครียด


6. ท่านอนหงาย  (The Belly Up)



ท่านอนที่น่ารักที่สุดของน้องหมาก็คงหนีไม่พ้นท่านี้ คือการที่น้องนอนหงายท้องฟ้า ชูขาทั้งสี่ขึ้นไปบนอากาศ แม้จะดูเหมือนท่าที่ไม่น่าสบายเลย แต่จริง ๆ แล้วท่านี้บ่งบอกว่าน้องกำลังรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจสุด ๆ


ความหมาย: การนอนท่านี้แสดงถึงความสบายใจและความไว้วางใจอย่างสูงสุด เนื่องจากการโชว์พุงเป็นการเปิดเผยส่วนที่บอบบางที่สุดของร่างกาย ถ้าสุนัขของเพื่อน ๆ นอนหงายพุงแบบนี้ แปลว่าเขารู้สึกปลอดภัยมากและไม่มีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งรอบข้างเลย อีกเรื่องคือเรื่องของอุณหภูมิเพราะน้องหมาจะขับเหงื่อออกทางอุ้งเท้า และท้องก็เป็นแหล่งความร้อนของร่างกาย การนอนหงายชูขาแบบนี้จึงช่วยให้น้องรู้สึกเย็นสบายขึ้น


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่า Belly Up มักจะเป็นสุนัขที่ ร่าเริง ขี้เล่น และมีนิสัยเป็นมิตร พวกเขามักจะเปิดเผยและแสดงออกถึงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ทั้งยังเป็นหมาที่รักการพักผ่อนและรู้วิธีหาความสุขง่าย ๆ ในชีวิต


7. ท่านอนซุก (The Cuddler Bug)



ถ้าพูดถึงท่านอนที่น่ารักที่สุดของน้องหมา คงต้องยกให้ท่านี้! น้องหมาที่ชอบนอนท่านี้จะหาที่นอนบนตัวคนหรือสุนัขตัวอื่น แล้วขดตัวกอดแบบแนบชิดสนิท ถ้าน้องนอนกับคน บางครั้งอาจกอดแขน ขา หรือวางหัวไว้บนตัวของคุณ แสดงถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิด


ความหมาย: ท่านี้แสดงถึง ความรัก ความผูกพัน และความต้องการความใกล้ชิด น้องหมาที่นอนท่านี้รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นจากเจ้าของหรือเพื่อนสุนัขด้วยกัน พวกเขาใช้ท่านอนนี้เพื่อบอกว่า เขารักและไว้วางใจคุณหรือเพื่อนพ้องอีกตัวเป็นที่สุด


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่า Cuddler Bug มักจะเป็นหมาที่ ขี้อ้อน มีความอบอุ่นใน และติดเจ้าของ พวกเขามักจะมองหาโอกาสที่จะใช้เวลาใกล้ชิดกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการนอนตัก ซุกตัว หรือแม้แต่กอดคุณ


8. ท่าพิงหลัง (The Back to Back)



ท่านี้คล้าย ๆ กับท่า The Cuddler Bug แต่แทนที่จะนอนทับหรือกอดกัน น้องจะนอนอยู่ข้าง ๆ เจ้าของหรือน้องหมาตัวอื่น โดยหันหลังชนกัน หรือวางตัวแนบชิดในลักษณะหลังพิงหลัง เป็นท่าที่บ่งบอกถึงความรักและความรู้สึกสบายใจอย่างเรียบง่าย


ความหมาย: เป็นอีกท่าที่แสดงถึง ความไว้ใจและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น การนอนหลังชนหลังเป็นพฤติกรรมที่สุนัขใช้ในฝูงตามธรรมชาติ เพื่อแสดงถึงความปลอดภัยและการปกป้องซึ่งกันและกัน น้องหมาที่นอนท่านี้บ่งบอกว่าพวกเขารู้สึกอุ่นใจและผูกพันกับคนหรือสัตว์ที่อยู่ข้าง ๆ


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่า Back to Back มักจะเป็นหมาที่ ซื่อสัตย์ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัว และต้องการแสดงความรักอย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขาอาจไม่ได้อ้อนมาก แต่พฤติกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกอบอุ่นและความสบายใจในความสัมพันธ์


9. ท่าท่านอนยกหัวและคอ (The Head and Neck Raised)



น้องหมาจะนอนในท่าที่ลำตัวแนบพื้น แต่ยกหัวและคอขึ้น โดยอาจใช้หมอน พนักพิง หรือวางบนแขนหรือขาของเจ้าของเพื่อให้ศีรษะอยู่ในระดับสูง


ความหมาย: ท่านี้แสดงถึงความต้องการหายใจสะดวกและความผ่อนคลายแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น โดยเฉพาะในสุนัขที่อาจมีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ เช่น สุนัขพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic) อย่างปั๊กหรือปักกิ่ง การยกหัวสูงช่วยให้พวกเขาหายใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจเป็นสัญญาณว่าน้องหมารู้สึกผ่อนคลายแต่ยังคงเฝ้าระวังสิ่งรอบตัว


นิสัย: น้องหมาที่ชอบท่า Head and Neck Raised มักจะมีนิสัย สุขุม ช่างสังเกต และระมัดระวัง พวกเขาเป็นหมาที่พร้อมจะลุกขึ้นเมื่อมีสิ่งผิดปกติ และยังแสดงถึงความอ่อนโยนและความต้องการความสบายที่สมดุล


 

รูปแบบการนอนและพฤติกรรมของสุนัข


ถ้าใครเคยนั่งมองน้องหมานอนหลับ คงเคยเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ หลายอย่าง ทั้งกรน เห่า หรือตัวกระตุก หลายคนอาจกังวลว่าปกติหรือเปล่า แต่ไม่ต้องห่วงไปครับ เพราะนี่เป็นเรื่องธรรมชาติของน้องหมาเลย เรามาทำความรู้จักพฤติกรรมเหล่านี้กันดีกว่า


การฝัน: รู้หรือไม่ว่าน้องหมาก็ฝันได้เหมือนกันกับคนเลย! จากงานวิจัยของ MIT พบว่า แม้แต่หนูก็ยังฝันได้ซับซ้อนเหมือนคนเลย แถมยังฝันในช่วงเดียวกับที่คนฝันด้วย ก็คือช่วง REM นั่นเอง จึงเป็นไปได้ว่าทั้งสุนัขและสัตว์ชนิดอื่น ๆ ก็ฝันได้เช่นกัน แม้เราจะไม่รู้ว่าน้องฝันถึงอะไร แต่เรารู้ว่าสมองของน้องจะประมวลผลเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันในขณะที่หลับ อย่างตอนวิ่งเล่นในสวน หรือไล่กวดสัตว์เล็ก ๆ ที่เจอมาระหว่างวันก็เป็นได้


การกระตุก: น้องหมาอาจมีอาการกระตุกขณะกำลังฝันหรือเมื่อเปลี่ยนช่วงการนอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรการนอนที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ 


การเห่าหรือส่งเสียงร้อง: หากได้ยินน้องเห่าหรือส่งเสียงร้องระหว่างหลับ ไม่ต้องตกใจไปนะครับ เพราะนี่เป็นเรื่องปกติ น้องอาจกำลังตอบสนองต่อสิ่งที่พบเจอในความฝัน


การวิ่ง: บางครั้งเราอาจเห็นน้องนอนตะแคง แล้วขยับอุ้งเท้าทั้งสี่ข้างเหมือนกับกำลังวิ่งอยู่ นั่นเป็นเพราะน้องกำลังฝันและตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นในความฝันอยู่นั่นเอง


การกรน: น้องหมาบางตัวก็กรนดังไม่แพ้คนเลย แต่ไม่ใช่ว่าทุกตัวจะกรนนะครับ ส่วนใหญ่จะพบในสุนัขพันธุ์หน้าสั้น จมูกสั้น และมีกะโหลกกว้างอย่างหมาพันธุ์ปั๊ก บูลด็อก และบ็อกเซอร์


การเดินวนและขุด: ก่อนนอน น้องหมาบางตัวชอบเดินวนหรือขุดที่นอน พฤติกรรมนี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษอย่างหมาป่า ที่ต้องขุดพื้นให้สะอาด ปราศจากใบไม้ ดิน หรือหิมะ เพื่อให้นอนได้สบาย ๆ



น้องหมานอนนานแค่ไหน ในแต่ละช่วงวัย? 


โดยเฉลี่ยแล้ว นี่คือจำนวนชั่วโมงที่สุนัขนอนแบ่งตามช่วงอายุ

  • หมาเด็กหรือลูกสุนัข: 18-20 ชั่วโมงต่อวัน

  • สุนัขโตเต็มวัย: 8-14 ชั่วโมงต่อวัน

  • หมาแก่หรือสุนัขสูงอายุ: 18-20 ชั่วโมงต่อวัน


โดยปกติแล้ว สุนัขที่โตเต็มวัยจะใช้เวลานอนประมาณวันละ 12-14 ชั่วโมง แต่จำนวนชั่วโมงการนอนของน้องหมาแต่ละตัวก็อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุ ระดับการทำกิจกรรม หรือนิสัยส่วนตัวของน้อง โดยเฉพาะในวันที่น้องได้วิ่งเล่นหรือออกกำลังกายมาก ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้ว่าน้องใช้เวลานอนพักผ่อนมากกว่าปกติ


สำหรับลูกสุนัขนั้น พวกเขาต้องการเวลานอนมากกว่าสุนัขโตเต็มวัย เพื่อให้ร่างกายได้เติบโตและพัฒนาอย่างเต็มที่ โดยอาจนอนได้นานถึง 20 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว ในทางกลับกัน สุนัขสูงอายุก็มักจะมีพละกำลังน้อยลง จึงมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนพักผ่อนในระหว่างวัน


หากพ่อ ๆ แม่ ๆ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการนอนของน้องหมา ไม่ว่าจะนอนมากขึ้นผิดปกติ หรือกลับนอนน้อยลงจนดูกระวนกระวาย ก็ควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามีปัญหาสุขภาพแอบแฝงอยู่หรือไม่ จะได้รักษาได้ทันท่วงทีนะครับ 


 

ท่านอนของน้องหมาเป็นภาษากายที่บอกความรู้สึกและความต้องการของพวกเขา ตั้งแต่การนอนหงายท้องที่แสดงความไว้ใจสูงสุด ไปจนถึงการนอนขดตัวที่อาจต้องการความอบอุ่นหรือความปลอดภัย การสังเกตท่านอนจึงช่วยให้เราเข้าใจและดูแลพวกเขาได้ดียิ่งขึ้นเพราะการนอนหลับพักผ่อนที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพ นอกจากสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นปลอดภัยแล้ว อาหารที่มีคุณภาพก็สำคัญด้วยเช่นกัน ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic จากอังกฤษ ที่ผลิตจากโปรตีนแมลงย่อยง่าย ช่วยให้น้องหมามีพลังงานเต็มเปี่ยมสำหรับทุกวันแห่งความสุข เมื่อเข้าใจภาษากายผ่านท่านอน พร้อมดูแลทั้งอาหารและสภาพแวดล้อม น้องหมาของเราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน! 



 
 
 

37 Comments


bottom of page