เสียงไอของน้องหมาที่ดังขึ้นมากลางดึก หรือไอติดต่อกันหลายวัน อาจทำเอาเจ้าของหลายคนเป็นห่วงและกังวลใจ จริง ๆ แล้วอาการไอในสุนัขนั้นเป็นกลไกการป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ เพื่อกำจัดสิ่งระคายเคืองออกจากทางเดินหายใจ แต่บางครั้งอาการไอก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงที่แฝงตัวอยู่ วันนี้ Yora Thailand จะพาพ่อ ๆ แม่ ๆ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการไอในสุนัข พร้อมเรียนรู้วิธีสังเกตอาการที่ต้องระวังกันครับ ตามไปดูกันเลย!
ทำไมน้องหมาถึงไอ?
อาการไอในสุนัขนั้นเปรียบเสมือนระบบรักษาความปลอดภัยของร่างกาย การไอเป็นวิธีที่ร่างกายของน้องหมาใช้กำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควัน หรือแม้แต่เสมหะ ในระบบทางเดินหายใจของน้องหมามีตัวรับความรู้สึกพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณกล่องเสียงและหลอดลม เมื่อมีสิ่งรบกวนมากระตุ้น ร่างกายจะสั่งการให้เกิดการไอเพื่อขับสิ่งเหล่านั้นออกมา
เมื่อไหร่ที่ต้องเริ่มกังวล?
การไอเป็นครั้งคราว เช่น สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง นั้นถือเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับที่คนเราก็อาจจะไอเมื่อสำลักน้ำ สูดดมควัน หรือภาวะภูมิแพ้ต่อสภาพแวดล้อม แต่สัญญาณที่ควรระวังคือเมื่อน้องหมาเริ่มไอบ่อยขึ้น ไอทุกวัน หรือไอจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแล
หากเพื่อน ๆ พบอาการต่อไปนี้ ควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว
ไอติดต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์
มีเลือดปนในน้ำลายหรือเสมหะ
หายใจลำบาก หอบ หรือหายใจเสียงดัง
เบื่ออาหาร ซึม หรือมีไข้
น้ำหนักลดลงอย่างผิดสังเกต
อาการไอในสุนัข เสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง?
โรคระบบทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินหายใจของน้องหมาแบ่งเป็นสองส่วนหลัก เหมือนท่อที่ต่อเชื่อมกัน ส่วนต้นเริ่มจากจมูก ผ่านโพรงจมูก คอหอย จนถึงกล่องเสียง ส่วนปลายคือเส้นทางที่อากาศจะเดินทางผ่านหลอดลมใหญ่ หลอดลมฝอย จนถึงถุงลมในปอด เมื่อส่วนใดเกิดปัญหา น้องหมาจะส่งสัญญาณบอกเราผ่านอาการไอในรูปแบบต่างๆ
1. โรคโพรงจมูกอักเสบ (Rhinitis)
โพรงจมูกเป็นประตูด่านแรกของระบบทางเดินหายใจ เมื่อเกิดการอักเสบ เซลล์เยื่อบุจะผลิตน้ำมูกมากกว่าปกติ ทำให้น้ำมูกไหลย้อนลงคอและกระตุ้นให้ไอและจามออกมา คล้ายกับตอนที่เราเป็นหวัดและมีน้ำมูกไหลลงคอ นอกจากนี้ การอักเสบยังทำให้โพรงจมูกบวม ทำให้หายใจมีเสียงฟึดฟัด โรคนี้มักเกิดจากการติดเชื้อ ภูมิแพ้ หรือสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก
2. โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
เกิดจากการที่เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เข้าสู่หลอดลม ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบอย่างรวดเร็ว เยื่อบุหลอดลมจะบวมและผลิตเมือกมากขึ้น ทำให้น้องหมาไอรุนแรงเพื่อกำจัดเมือก อาการจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ในคน และอาจมีไข้ร่วมด้วย
3. โรคหลอดลมตีบ (Tracheal Collapse)
หลอดลมของสุนัขประกอบด้วยวงกระดูกอ่อนที่คล้ายห่วง เมื่อกระดูกอ่อนนี้อ่อนแอ จะทำให้หลอดลมแฟบลงเวลาหายใจ โดยเฉพาะเวลาตื่นเต้นหรือออกกำลัง พบบ่อยในสุนัขพันธุ์เล็กเพราะมักมีกระดูกอ่อนที่บางกว่าปกติ เสียงไอจะคล้าย ๆ ห่านร้องเพราะอากาศผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ
4. หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic Bronchitis)
การอักเสบที่เป็นมานานจะทำให้เยื่อบุหลอดลมเกิดการเปลี่ยนแปลงถาวร ทำให้ผลิตเมือกออกมามากและไวต่อการระคายเคือง น้องหมาจะไอตลอดเวลา แม้แต่การสูดดมควันหรือฝุ่นเพียงเล็กน้อยก็อาจกระตุ้นให้ไอได้ คล้ายกับโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังในคน
5. ความผิดปกติของกล่องเสียง (Laryngeal Disorders)
กล่องเสียงเป็นอวัยวะสำคัญที่ควบคุมการไหลของอากาศและป้องกันไม่ให้อาหารเข้าหลอดลม เมื่อเกิดการอักเสบหรือมีสิ่งแปลกปลอม จะทำให้การทำงานผิดปกติ น้องหมาจะไอเพื่อพยายามกำจัดสิ่งที่รบกวน บางครั้งอาจพบก้อนเนื้องอกที่กล่องเสียง ซึ่งนอกจากทำให้ไอแล้ว ยังทำให้เสียงเปลี่ยนและหายใจลำบากอีกด้วย
6. โรคพยาธิหนอนหัวใจและพยาธิในปอด (Heartworm Disease & Lung Worms)
พยาธิหนอนหัวใจแพร่ผ่านยุงที่เป็นพาหะ เมื่อเข้าสู่ร่างกายน้องหมา ตัวอ่อนจะเดินทางผ่านกระแสเลือดไปเติบโตในหัวใจและหลอดเลือดปอด ทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อเยื่อ ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนบกพร่อง น้องหมาจะไอแห้งๆ หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย และในระยะรุนแรงอาจมีน้ำท่วมปอด โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการให้ยาป้องกันพยาธิเป็นประจำทุกเดือน
7. โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)
เมื่อเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ปอด จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้ถุงลมปอดถูกแทนที่ด้วยของเหลวและเซลล์อักเสบ ประสิทธิภาพการหายใจลดลง น้องหมาจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ หายใจเร็ว เบื่ออาหาร และซึม การรักษาต้องให้ยาปฏิชีวนะและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาการอาจรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
8. เนื้องอกในช่องอก (Thoracic Neoplasia)
มักพบในสุนัขสูงอายุหรือหมาแก่ เนื้องอกที่เติบโตในช่องอกจะกดทับอวัยวะโดยรอบ ทั้งปอด หลอดลม และหัวใจ ทำให้การหายใจและการไหลเวียนเลือดผิดปกติ น้องหมาจะไอเรื้อรัง เหนื่อยง่าย และน้ำหนักลด อาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นตามการเติบโตของก้อน การรักษาขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเนื้องอก
9. ภาวะน้ำในช่องอก (Pleural Effusion)
เกิดจากการสะสมของของเหลวระหว่างปอดและผนังทรวงอก สาเหตุมีหลายอย่าง เช่นมะเร็ง หรือการติดเชื้อ ของเหลวที่สะสมจะกดทับปอด ทำให้การขยายตัวของปอดลดลง น้องหมาจะหายใจลำบาก ไอ เหงือกซีด และซึม การรักษาต้องระบายของเหลวออกและแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้
โรคหัวใจ
โรคหัวใจในน้องหมาระยะแรกอาจไม่แสดงอาการ แต่เมื่อหัวใจโตขึ้นหรือเริ่มทำงานบกพร่อง อาการไอจะเป็นสัญญาณเตือนสำคัญ โดยเฉพาะในน้องหมาพันธุ์เล็กกลางวัยที่มักเป็นโรคลิ้นหัวใจเสื่อม หรือน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง
เมื่อหัวใจโตขึ้น มันจะกดทับหลอดลม ทำให้เกิดอาการไอ และถ้ามีภาวะน้ำท่วมปอด อาการจะยิ่งรุนแรงขึ้น น้องหมาจะเหนื่อยง่าย หายใจเร็ว เมือกซีด และในบางกรณีอาจถึงขั้นเป็นลมได้หากไอติดต่อกันนานๆ
อาการไอในสุนัขอาจเป็นเพียงอาการเล็กน้อยหรือเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงก็ได้ การสังเกตลักษณะอาการไอและอาการร่วมอื่น ๆ จะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ประเมินความรุนแรงของอาการและตัดสินใจพาน้องหมาไปพบคุณหมอได้อย่างเหมาะสม
อย่าลืมนะครับว่าว่า การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา การเลือกอาหารที่มีคุณภาพ การดูแลสุขอนามัย และการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนตามกำหนด จะช่วยให้สุนัขของเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ ได้ ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์ ไว้ด้วยนะครับ
Comments