ทำไมน้องหมาถึงเห่า? เข้าใจสาเหตุ ความหมาย เทคนิคการฝึกให้หยุดเห่า

เสียง "โฮ่ง! โฮ่ง!" ของเจ้าตูบที่เราได้ยินกันจนชินหู หลายครั้งที่เราอาจรู้สึกหงุดหงิดเมื่อน้องหมาเห่าไม่หยุด แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมน้องหมาถึงชอบเห่า? การเห่าเป็นวิธีการสื่อสารตามธรรมชาติของสุนัข เป็นเหมือนภาษาพิเศษที่น้องหมาใช้สื่อสารกับเรา และเสียงเห่านั้นมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่เสมอ วันนี้ Yora Thailand จะพาทาสหมาทั้งหลายไปทำความเข้าใจพฤติกรรมการเห่าของสุนัขกัน พร้อมเรียนรู้วิธีจัดการอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำยังไงได้บ้าง ตามไปดูกันได้เลย!

---

ทำไมน้องหมาถึงเห่า?

เหมือนที่เรามีภาษาพูด น้องหมาก็มีภาษาของน้องนั้นคือการเห่า เป็นวิธีสื่อสารตามธรรมชาติของพวกเขา แต่ละเสียงเห่ามีความหมายต่างกัน บางครั้งอาจเป็นการทักทาย บางครั้งอาจเป็นการเตือนภัย หรือแม้แต่การบอกว่า หิวแล้วนะ แม้เสียงเห่าอาจรบกวนหูเราบ้าง แต่ลองมาทำความเข้าใจกันว่าน้องหมากำลังพยายามจะบอกอะไรเรากันดีกว่า

เห่าเพราะหวงบ้าน

เพราะน้องเป็นยามเฝ้าประตูที่ซื่อสัตย์ น้องหมาจะเห่าเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติรอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า แมวข้างบ้าน หรือแม้แต่ใบไม้ที่ปลิวมาตามลม นี่คือสัญชาตญาณการปกป้องที่อยู่ในสายเลือดของพวกเขา เสียงเห่าแบบนี้มักจะดังและแหลม เหมือนกำลังประกาศว่า "นี่คือที่ของฉัน อย่ามายุ่ง!"

เห่าเรียกความสนใจ

เหมือนเด็กน้อยที่อยากให้พ่อแม่สนใจ น้องหมาก็เช่นกัน พวกเขาอาจเห่าเมื่อหิว อยากเล่น หรืออยากออกไปเดินเล่น เสียงเห่าแบบนี้มักจะสั้น ๆ ถี่ ๆ บางครั้งอาจมาพร้อมกับการกระโดดตื๊อ หรือวิ่งไปวิ่งมาอย่างตื่นเต้น

เห่าเพราะเหงา

น้องหมาที่มีอาการวิตกกังวลจากการพลัดพราก มักจะเห่าเมื่อต้องอยู่บ้านคนเดียว เสียงเห่าจะฟังดูเศร้าและยาวนาน เหมือนกำลังร้องเรียกหาเจ้าของ นี่เป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังรู้สึกไม่สบายใจ

เห่าด้วยความดีใจ

ลองนึกภาพตอนคุณกลับบ้านมา น้องหมาวิ่งมาต้อนรับพร้อมเสียงเห่าสดใส นี่คือการแสดงความดีใจที่ได้เจอคนที่รัก เสียงเห่าแบบนี้จะมาพร้อมกับหางที่กระดิกรัวและท่าทางกระตือรือร้น

เห่าตามเสียง

บางครั้งน้องหมาจะเห่าเมื่อได้ยินเสียงไซเรน เสียงดนตรี หรือเสียงเห่าของเพื่อนหมาด้วยกัน เหมือนพวกเขากำลังร่วมวงดนตรีแบบธรรมชาติ

ประเภทของเสียงเห่า

อย่างที่รู้กีนว่าเสียงเห่าของน้องหมาเปรียบเสมือนภาษาพิเศษที่พวกเขาใช้สื่อสารกับเรา น่าสนใจที่ว่าแต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์ในการเห่าที่แตกต่างกัน ทั้งโทนเสียง จังหวะ และความถี่ แม้จะสื่อความรู้สึกเดียวกัน เหมือนกับที่มนุษย์เราพูดภาษาต่างกันแต่สื่อความหมายเดียวกันได้ มาดูกันว่าเสียงเห่าแบบต่างๆ ของน้องหมามีความหมายอย่างไรบ้าง 

• เสียงเห่าแบบชวนสนใจ: เมื่อน้องหมาเห่าเป็นจังหวะ 3-4 ครั้งติด ๆ กัน โดยมีจังหวะหยุดสั้น ๆ คั่น มักจะเป็นการบอกว่า "มาดูนี่สิ! มีอะไรน่าสนใจมาก" เหมือนเด็กน้อยที่ตื่นเต้นอยากให้ผู้ใหญ่มาดูสิ่งที่พบเจอ

• เสียงเห่าเตือนภัย: ถ้าคุณได้ยินเสียงเห่าถี่ๆ ต่อเนื่องในโทนกลาง นั่นคือสัญญาณว่าน้องหมากำลังระแวง อาจมีบางสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยกำลังเข้ามาใกล้

• เสียงร้องเรียกหา: การเห่าสลับกับการหยุดเป็นช่วงยาว ๆ มักเป็นภาษาที่บอกว่า "เหงา" หรือ "อยู่ไหนกันนะ" สะท้อนความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องการการปลอบ

• เสียงทักทาย: เสียงเห่าสั้น ๆ หนึ่งหรือสองครั้ง คือการพูดว่า "สวัสดี!" เป็นการทักทายแบบเป็นมิตรในภาษาของน้องหมา 

• เสียงรำคาญ: หากได้ยินเสียงเห่าแบบดุ ๆ สั้นๆ เพียงครั้งเดียว นั่นคือสัญญาณว่าน้องหมาต้องการความเป็นส่วนตัว กำลังบอกว่า "ขอพื้นที่หน่อยนะ"

• เสียงบอกความต้องการ: เมื่อน้องหมาเห่าสั้น ๆ ครั้งเดียวพร้อมกับจ้องมองมาที่คุณ นั่นอาจเป็นการบอกว่า "หิวแล้ว" หรือ "อยากออกไปทำธุระ"

• เสียงตื่นเต้น: การเห่าไม่หยุดด้วยระดับเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนความตื่นเต้นล้นเหลือ เหมือนเด็กที่กำลังดีใจสุดๆ จนควบคุมตัวเองไม่อยู่

วิธีช่วยให้น้องหมาเห่าน้อยลง

ฝึกด้วยความรักและความเข้าใจ

การฝึกให้น้องหมาควบคุมการเห่าต้องใช้ทั้งความรัก ความเข้าใจ และความอดทน พ่อ ๆ แม่ ๆ สามารถเริ่มจาก

• สอนคำสั่ง "เงียบ" หรือ "หยุด" ในช่วงที่น้องหมาสงบ

• เมื่อเขาเห่า ให้ใช้คำสั่งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น

• รอจังหวะที่เขาเงียบ แม้แค่วินาทีเดียว รีบให้รางวัลทันที

• ทำซ้ำ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เหมือนการสอนเด็กพูดคำใหม่

  
  

จัดบ้านให้น่าอยู่ ลดการเห่าของน้องหมา

การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้น้องหมาเห่าน้อยลง เหมือนกับที่เราต้องการบ้านที่สงบเพื่อการพักผ่อน น้องหมาก็เช่นกัน ลองมาปรับบ้านให้เป็นมิตรกับน้องหมากันดีกว่า

• จัดมุมสงบให้น้องหมา เลือกพื้นที่ที่ห่างจากประตูหน้าต่าง จัดที่นอนนุ่มๆ ให้เขารู้สึกปลอดภัย เหมือนการมี "ห้องส่วนตัว" ของตัวเอง

• ใช้ผ้าม่านหรือฉากกั้นบังสายตาจากสิ่งกระตุ้นภายนอก โดยเฉพาะในจุดที่น้องหมาชอบยืนเฝ้าและเห่าใส่คนเดินผ่าน

• เปิดเพลงเบา ๆ หรือเสียงธรรมชาติ เพื่อกลบเสียงรบกวนจากภายนอก เหมือนการสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในสปา

พาน้องหมาออกกำลัง หัวใจแข็งแรง เห่าน้อยลง

เหมือนเด็กที่ได้วิ่งเล่นจนเหนื่อย จะนอนหลับสบาย น้องหมาที่ได้ออกกำลังกายเพียงพอก็จะสงบและเห่าน้อยลงเช่นกัน

การเดินเป็นยาวิเศษ

• พาน้องหมาออกเดินทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที

• เปลี่ยนเส้นทางบ้าง ให้ได้ดมกลิ่นใหม่ๆ สำรวจโลกกว้าง

• ฝึกเดินตามคำสั่งไปด้วย เป็นการออกกำลังกายทั้งกายและสมอง

กิจกรรมท้าทายสมอง

• ใช้ของเล่นที่ต้องคิด เช่น ของเล่นซ่อนขนม

• เล่นเกมฝึกสมอง เช่น ซ่อนของให้หา

• สอนท่าใหม่ๆ เพิ่มเติม ให้สมองได้ทำงาน

เมื่อน้องหมาเห่าเพราะต้องการความสนใจ

เหมือนเด็กที่ซน เพราะอยากให้พ่อแม่สนใจ น้องหมาก็เช่นกัน มาดูวิธีจัดการกับการเห่าแบบนี้กัน

• เมื่อน้องหมาเห่าเรียกร้อง ให้รอจนเขาเงียบก่อนจึงเข้าไปหา

• สร้างกิจวัตรที่แน่นอน เช่น เวลาอาหาร เวลาเล่น เวลาเดินเล่น

• ให้ความสนใจเชิงบวกเมื่อเขาสงบ เช่น ลูบหัว พูดชม ให้ขนม

เมื่อน้องหมาเห่าเพราะกลัวการพลัดพราก

เมื่อเพื่อน ๆ ต้องออกไปข้างน้อง นั่นอาจทำให้น้องเกิดความรู้สึกกังวล พ่อ ๆ แม่ ๆ ต้องเยียวยาด้วยความเข้าใจ สร้างความมั่นใจทีละน้อย โดยเริ่มได้จาก

• ฝึกให้คุ้นกับการอยู่คนเดียวทีละนิด เริ่มจากเวลาสั้น ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่ม

• สร้างพื้นที่ปลอดภัย มีของเล่น ผ้าห่มที่มีกลิ่นของเจ้าของ

• ออกจากบ้านและกลับมาอย่างเงียบ ๆ ไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่

• จำลองสถานการณ์การออกจากบ้าน และฝึกคำสั่ง หยุด  หรือ เงียบ และให้รางวัล 

เมื่อไหร่ควรขอความช่วยเหลือจากคุณหมอ

บางครั้ง ความรักและความพยายามของเราอาจไม่พอ พ่อ ๆ แม่ ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อ

• น้องหมาเห่าไม่หยุด แม้จะพยายามแก้ไขแล้ว

• แสดงอาการเครียดหรือกังวลมากเกินไป

• มีพฤติกรรมก้าวร้าวร่วมด้วย

• การเห่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของน้องหมาหรือคุณภาพชีวิตของทุกคนในบ้าน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ในช่วงการฝึกหรือเมื่อน้องหมาเห่า

การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงไม่เคยให้ผลดี ในช่วงที่กำลังฝึกน้อง ๆ อยู่ หรือช่วงที่พบว่าน้องเห่าขึ้นมา เจ้าของหมาควรหลีกเลี่ยง

• การตะคอกหรือลงโทษ เพราะจะยิ่งทำให้น้องหมาเครียดและเห่ามากขึ้น

• การปล่อยปละละเลย เพราะพฤติกรรมจะฝังรากลึกขึ้นเรื่อยๆ

---

การเห่าเป็นธรรมชาติของน้องหมา เหมือนการพูดคุยของเรา แต่เราสามารถช่วยให้พวกเขาควบคุมได้ด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอดทน เมื่อเข้าใจภาษาของน้องหมา รู้จักสาเหตุ และมีวิธีจัดการที่ถูกต้อง การอยู่ร่วมกันระหว่างคนและน้องหมาก็จะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากขึ้น จำไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา เหมือนการสอนเด็กพูด ต้องค่อยๆ ฝึก ค่อยๆ เรียนรู้ไปด้วยกัน ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอและความอดทน แล้วคุณจะได้เห็นการพัฒนาที่น่าประทับใจของน้องหมาตัวน้อยของคุณ

ถ้ามีข้อสงสัยหรือกังวลใจ อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ เพราะบางครั้ง มุมมองของผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยให้เราเห็นทางออกที่ดีกว่า เพื่อให้ทั้งคุณและน้องหมาได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไปนานๆ และนอกจากเรื่องพฤติกรรมของน้อง ๆ แล้วการเลือกอาหารที่มีคุณภาพ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่เจ้าของต้องใส่ใจ ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง เหมาะกับน้องหมาทุกสายพันธุ์ ไว้ด้วยนะครับ