top of page
Search

สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน อาหาร วิธีเลี้ยง [พร้อมราคา]

Writer's picture: YORA ExpertYORA Expert


ข้อมูลทั่วไปสำหรับสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


ถ้าพูดถึงสุนัขที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก ดัชชุน (Dachshund) หรือที่หลายคนเรียกว่า "หมาไส้กรอก" คงต้องติดอันดับต้น ๆ แน่นอน ด้วยลำตัวยาวและขาสั้น พร้อมกับนิสัยที่ทั้งฉลาดและกล้าหาญ ทำให้พวกเขาเป็นที่รักของคนทั่วโลก วันนี้ Yora Thailand จะพาทุกคนไปทำความรู้จักสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำแนวทางการเลี้ยงดู สำหรับว่าที่พ่อ ๆ แม่ ๆ ที่กำลังศึกษาข้อมูลของสายพันธุ์นี้กันอยู่ แถมวันนี้เรามีลิสต์ฟาร์มเจ้าหมาไส้กรอกมาฝากอีกด้วยสำหรับใครที่พร้อมจะรับน้องเข้าบ้านเลย ถ้าพร้อมแล้วไปมาดูกันเลยครับ! 


ภาพรวมน้องหมาดัชชุน (Dachshund) หรือน้องหมาไส้กรอก

น้ำหนักเฉลี่ย

4-11 กิโลกรัม

ส่วนสูงเฉลี่ย

13-25 เซนติเมตร

อายุขัยเฉลี่ย

12-16 ปี

ลักษณะขน

มี 3 แบบ (ขนสั้น ขนยาว และขนตั้งตรง)

สีขน

น้ำตาล ดำ น้ำตาลแดง ครีม เทา และลายผสม

นิสัย

ฉลาด กล้าหาญ รักเจ้าของ ดื้อรั้นเล็กน้อย

โรคที่ต้องระวัง

  • โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Intervertebral Disk Disease - IVDD)

  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)

  • โรคข้อเข่าเคลื่อน (Patellar Luxation)

  • โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)

  • ลำไส้อักเสบ (Enteritis)

  • โรคหูอักเสบ (Otitis)


 

ประวัติของสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


น้อยคนจะรู้ว่าดัชชุนมีประวัติที่น่าสนใจมาก เราต้องย้อนกลับไปเมื่อกว่า 600 ปีที่แล้วในประเทศเยอรมัน เจ้าตูบขาสั้นตัวยาวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นนักล่ามืออาชีพ! พวกเขาเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ใต้ดินอย่างแบดเจอร์และกระต่าย รูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ทั้งขาสั้นและลำตัวยาว ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถคลานเข้าไปในโพรงสัตว์ได้อย่างคล่องแคล่ว ความกล้าหาญและไหวพริบดีก็เป็นคุณสมบัติที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อการล่าสัตว์โดยเฉพาะ


ในปลายปีคริสต์ศตวรรษที่ 19 น้องหมาพันธุ์ดัชชุนได้รับความสนใจมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการเพาะพันธุ์หมาไส้กรอกเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านกันมากขึ้น  แม้ปัจจุบันพวกเขาจะผันตัวมาเป็นสุนัขเลี้ยงที่น่ารักแล้ว แต่สัญชาตญาณนักล่าก็ยังคงอยู่ เพื่อน ๆ อาจจะเห็นน้อง ๆ ชอบขุดดินหรือไล่ตามสัตว์เล็ก ๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษนักล่านั่นเอง


ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


ดัชชุนเป็นสุนัขที่มีบุคลิกโดดเด่นมาก ๆ พวกเขาฉลาดและมีไหวพริบดี สามารถเรียนรู้คำสั่งได้เร็ว แต่ก็มาพร้อมกับความดื้อรั้นในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่แปลกเลย เพราะในอดีตพวกเขาต้องคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองในระหว่างการล่าสัตว์


สิ่งที่ทำให้หลายคนหลงรักหมาไส้กรอกคือความรักและความจงรักภักดีที่พวกเขามีต่อเจ้าของ พวกเขาชอบอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว และมักจะติดเจ้าของคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษเรียกได้ว่าถึงขั้นเป็นเงาติดตัวเลยก็ว่าได้ เพราะชอบตามเจ้าของไปทุกที่ในบ้าน


นอกจากนี้ ดัชชุนยังเป็นสุนัขที่ตื่นตัวและกระตือรือร้น ชอบการเล่นและการสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัว แต่ก็ไม่ได้ซนจนเกินไป พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของได้ดี ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ๆ สายแอคทีฟ หรือชอบอยู่บ้านสบาย ๆ


อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่เจ้าของควรระวัง นั่นคือสัญชาตญาณนักล่าที่ยังคงอยู่ พวกเขาอาจจะไล่ตามสัตว์เล็ก ๆ เช่น กระรอกหรือแมว และอาจเห็นการขุดดินเป็นกิจกรรมที่สนุก การฝึกตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ว่าพฤติกรรมไหนควรหรือไม่ควรทำ



มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


เมื่อมองดัชชุนแล้ว สิ่งแรกที่จะสะดุดตาคือรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยลำตัวยาวและขาสั้น ดัชชุนที่ได้มาตรฐานต้องมีสัดส่วนที่ลงตัว ระยะจากอกถึงพื้นควรเป็นหนึ่งในสามของความสูงทั้งหมด ลำตัวยาวพอดี ไม่ยืดจนดูเหมือนงู และไม่สั้นจนคล้ายสุนัขพันธุ์อื่น

กล้ามเนื้อต้องกระชับ แน่น สัมผัสได้ถึงความแข็งแรงเมื่อลูบไล้ไปตามตัว เหมือนนักกีฬาตัวเล็ก ๆ ที่พร้อมจะวิ่งและขุดดินได้ทุกเมื่อ


ส่วนหัวของดัชชุนเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เมื่อมองจากด้านบน คุณจะเห็นรูปทรงคล้ายลิ่ม จมูกยาวได้สัดส่วนกับกะโหลก ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป สันจมูกตรง ไม่งุ้มขึ้นหรือโค้งลงเหมือนสุนัขบางพันธุ์ ดวงตาของดัชชุนเป็นส่วนที่สะท้อนบุคลิกได้ดีที่สุด ตาควรกลมรี สีเข้ม เปล่งประกายความฉลาดและความร่าเริง ส่วนหูนั้นต้องพับลงมาแนบแก้ม ปลายมนนุ่มนวล ทำให้ใบหน้าดูน่ารักน่าเอ็นดู


คอของดัชชุนควรยาวพอประมาณ มีกล้ามเนื้อแน่น ไม่มีหนังคอย้วยย้อย ส่วนหน้าอกนั้นลึกและกว้าง ซี่โครงโค้งสวยงาม ทำให้มีพื้นที่พอสำหรับหัวใจและปอดที่แข็งแรง ซึ่งสำคัญมากสำหรับสุนัขที่ต้องใช้พละกำลังในการขุดและไล่ล่าเหยื่อใต้ดิน

แม้ขาของดัชชุนจะสั้น แต่ต้องแข็งแรงและมีพลัง ขาหน้าตรง ไม่บิดเบี้ยว ข้อศอกแนบชิดลำตัว ขาหลังมีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ แสดงถึงพละกำลังในการวิ่งและขุด เท้ากลมกะทัดรัด นิ้วเท้าชิดกัน อุ้งเท้าหนาแน่น เล็บแข็งแรง พร้อมสำหรับการผจญภัย


ดัชชุนมีความพิเศษตรงที่มีขนให้เลือกถึง 3 แบบ แต่ละแบบมีเสน่ห์เฉพาะตัว

  • ขนสั้น เรียบลื่น มันวาว แนบติดผิวหนัง ดูแลง่าย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา

  • ขนยาว นุ่มสลวย มีขนยาวสวยงามที่คอ อก ท้อง และหลังขา หางเป็นพวงสวยงาม ดูหรูหราแต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

  • ขนตั้งตรง มีความหยาบแต่มีเสน่ห์ มีขนอ่อนซ่อนอยู่ด้านใน พร้อมหนวดและคิ้วเด่นชัด ให้ลุคดุดันน่าเกรงขาม


สีขนก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ น้ำตาล ดำ น้ำตาลแดง ครีม เทา ไปจนถึงลายเสือสุดเท่ แต่ละสีล้วนสวยงามไม่แพ้กัน ส่วนเรื่องขนาด ดัชชุนมี 3 ขนาดตามมาตรฐานสายพันธุ์คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดมินิเอเจอร์ และขนาดเล็กหรือขนาดกระต่าย (Kaninchen)



โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Intervertebral Disk Disease - IVDD) โรคที่พบบ่อยที่สุดในดัชชุน  ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ด้วยลำตัวที่ยาวและขาสั้น ทำให้กระดูกสันหลังต้องรับแรงกดทับมากกว่าปกติ เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพหรือได้รับแรงกระแทก อาจเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือขาเป็นอัมพาตได้ การป้องกันทำได้โดยควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการกระโดดสูง เน้นให้น้อง ๆ เดินบนทางลาดแทนบันได


โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia) และโรคข้อเข่าเคลื่อน (Patellar Luxation) เนื่องจากโครงสร้างร่างกายที่ไม่สมดุล ขาที่สั้นต้องรับน้ำหนักจากลำตัวที่ยาว ทำให้ข้อต่อต่าง ๆ ต้องทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะเมื่อน้ำหนักเกินมาตรฐาน การออกกำลังกายที่เหมาะสมและการควบคุมน้ำหนักจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้


โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) และลำไส้อักเสบ (Enteritis) ระบบทางเดินอาหารก็เป็นจุดอ่อนของดัชชุน เนื่องจากนิสัยการกินที่รวดเร็วและความอ่อนไหวของระบบย่อยอาหาร การให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม แบ่งมื้อ และเลือกอาหารที่ย่อยง่ายจะช่วยลดความเสี่ยงได้


โรคหูอักเสบ (Otitis) ก็เป็นปัญหาที่พบบ่อยในดัชชุน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีหูยาวปิดใบหน้า ความชื้นและความอับที่สะสมในช่องหูทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลอาจลุกลามจนเกิดการสูญเสียการได้ยิน การทำความสะอาดหูอย่างสม่ำเสมอและการตรวจสุขภาพหูเป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้


อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


อาหารสำหรับลูกสุนัขพันธุ์ดัชชุน ช่วงอายุ 1-3 เดือน:


ในวัยเด็ก ลูกหมาดัชชุนต้องการสารอาหารที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโปรตีนคุณภาพสูงและแคลเซียมที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นช่วงที่กระดูกและกล้ามเนื้อกำลังพัฒนา ในช่วงแรก (1-2 เดือน) ลูกดัชชุนควรได้รับนมแม่หรือนมทดแทนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ เมื่อเริ่มหย่านม (อายุประมาณ 3-4 สัปดาห์) ควรค่อย ๆ แนะนำอาหารเม็ดสูตรลูกสุนัขที่นุ่มและย่อยง่าย โดยแช่น้ำอุ่นให้นิ่มก่อนให้กิน 


อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์ดัชชุน โตเต็มวัย ช่วงอายุ 1 ปี:


เมื่อดัชชุนเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ความต้องการพลังงานและสารอาหารจะเปลี่ยนไป โดยเน้นการรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสมและดูแลระบบกระดูกและข้อต่อเป็นพิเศษ เนื่องจากโครงสร้างร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ควรให้น้อง ๆ ได้รับโปรตีนคุณภาพดี ไขมันดี รวมไปถึง กลูโคซามีนและคอนดรอยตินเพื่อบำรุงข้อต่อ ใยอาหารที่เหมาะสมเพื่อระบบย่อยอาหารที่ดี วิตามิน E และ C เพื่อต้านอนุมูลอิสระ ควรแบ่งอาหารเป็น 2-3 มื้อต่อวัน และคอยควบคุมปริมาณแคลอรีให้เหมาะสม เพราะดัชชุนมีแนวโน้มที่จะอ้วนได้ง่าย หากน้ำหนักมากเกินไปจะส่งผลต่อกระดูกสันหลังและข้อต่อ สำหรับโดยปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำสำหรับน้องหมาดัชชุนแต่ละตัวนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งขนาดตัว อัตราการเผาผลาญ และรูปแบบกิจกรรมของน้อง ๆ วิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดปริมาณอาหารคือการปรึกษาสัตวแพทย์ครับ 


อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์ดัชชุน สูงวัย อายุ 7 ปี ขึ้นไป:


เมื่อดัชชุนเข้าสู่วัยสูงอายุ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะทำงานช้าลง ความต้องการพลังงานลดลง แต่ต้องการสารอาหารบางชนิดมากขึ้น จึงควรเปลี่ยนมาให้อาหารสูตรสำหรับสุนัขสูงวัยโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีแคลอรี่ต่ำลง แต่ยังคงคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ดัชชุนที่อายุเยอะควรได้รับโปรตีนคุณภาพสูงแต่ย่อยง่าย อาหารไขมันต่ำ กลูโคซามีนและคอนดรอยตินในปริมาณสูงโอเมก้า 3 และ 6 เพื่อสุขภาพสมองและข้อต่อ สารต้านอนุมูลอิสระสูง ใยอาหารสูงเพื่อระบบย่อยอาหารที่ดี แคลอรีต่ำเพื่อป้องกันโรคอ้วน ควรแบ่งมื้ออาหารเป็น 3-4 มื้อเล็กๆ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และควรเลือกอาหารที่มีขนาดเม็ดเล็ก นุ่ม เคี้ยวง่าย เพราะสุนัขสูงอายุอาจมีปัญหาเรื่องฟัน



วิธีการดูแลสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


การดูแลลูกสุนัขพันธุ์ดัชชุน ช่วงอายุ 4-7 เดือน


ช่วงอายุ 4-7 เดือนถือเป็นช่วงสำคัญในการวางรากฐานพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและพฤติกรรม เป็นวัยที่เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อยากรู้อยากเห็น และต้องการการฝึกฝนที่เหมาะสม


เริ่มจากเรื่องการเจริญเติบโต ในช่วงนี้กระดูกและกล้ามเนื้อกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกหมาดัชชุนกระโดดจากที่สูง หรือวิ่งขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เพราะอาจส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลังที่ยังไม่แข็งแรงเต็มที่


การออกกำลังกายควรเป็นการเดินเล่นสั้นๆ วันละ 15-20 นาที 2 ครั้ง และให้เล่นแบบที่ไม่หักโหมจนเกินไป เช่น การโยนของเล่นในระยะใกล้ หรือเกมฝึกสมอง การนอนพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน ลูกดัชชุนควรได้นอนอย่างน้อย 16-18 ชั่วโมงต่อวัน


นอกจากนี้ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการฝึกพื้นฐาน เริ่มจากการฝึกขับถ่ายให้เป็นที่ การนั่ง นอน และการมาเมื่อเรียก ควรใช้วิธีการฝึกแบบให้รางวัล ไม่ใช้การลงโทษ เพราะดัชชุนเป็นสุนัขที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ การพาออกไปเจอสิ่งแวดล้อมและสัตว์ใหม่ๆ ก็สำคัญมาก แต่ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และต้องแน่ใจว่าได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว 


ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพและความสะอาด ควรเริ่มสร้างความคุ้นเคยกับการแปรงขน ตัดเล็บ และทำความสะอาดหู ฟัน ตา ควรแปรงขนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อกำจัดขนตายและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด


การดูแลสุนัขพันธุ์ดัชชุนโตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป


เมื่อดัชชุนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การดูแลจะเน้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว การออกกำลังกายในวัยผู้ใหญ่ควรมีความสม่ำเสมอ โดยเน้นกิจกรรมที่ไม่กระทบกระเทือนกระดูกสันหลังมากเกินไป เช่น การเดินเล่น 20-30 นาทีต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง การว่ายน้ำ (สำหรับน้องหมาดัชชุนบางตัวที่ชอบน้ำ) เป็นการออกกำลังกายที่ดีมากเพราะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยไม่กดทับกระดูกสันหลัง


การควบคุมน้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการมีน้ำหนักเกินจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหากระดูกสันหลังและข้อต่อ ควรชั่งน้ำหนักเป็นประจำและปรับปริมาณอาหารตามความเหมาะสม จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม โดยติดตั้งทางลาดแทนบันไดในจุดที่จำเป็น ใช้เบาะที่นุ่มแต่รองรับน้ำหนักได้ดี และหลีกเลี่ยงพื้นลื่น


ดัชชุนเป็นสุนัขที่ต้องการความรักและความเอาใจใส่จากเจ้าของ ควรจัดสรรเวลาในการเล่นและทำกิจกรรมร่วมกัน การฝึกเล่นเกมค้นหาของหรือเกมฝึกสมองจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสติปัญญาและป้องกันความเบื่อหน่ายและโรคเครียด


การดูแลขนและผิวหนังควรทำอย่างสม่ำเสมอ อาบน้ำทุก 4-6 สัปดาห์ ใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพผิวและขน ตรวจสอบและทำความสะอาดหูทุกสัปดาห์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แปรงฟันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปาก


นอกจากการดูแลประจำวันแล้ว ควรพาน้องดัชชุนไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาปัญหาสุขภาพแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะการตรวจสุขภาพกระดูกสันหลัง ข้อต่อ และฟัน รวมถึงการฉีดวัคซีนกระตุ้นตามกำหนด


ราคาหมาพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)


เรื่องราคาสุนัขพันธุ์ดัชชุนในประเทศไทยนั้น มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งราคาเหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพของสายพันธุ์ การดูแล และมาตรฐานการเพาะเลี้ยงตั้งแต่ต้นทาง สำหรับดัชชุนขนาดมาตรฐานที่มีลักษณะตรงตามสายพันธุ์ ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000-25,000 บาท แต่หากเป็นดัชชุนที่มาพร้อมใบรับรองสายพันธุ์ (Pedigree) และประวัติการดูแลสุขภาพที่ดี ราคาอาจอยู่ที่ 25,000-50,000 บาท


ในกรณีที่เป็นดัชชุนคุณภาพสูง โดยเฉพาะขนาดมินิเอเจอร์หรือคานิเชนที่มาจากสายเลือดดี มีลักษณะโดดเด่นตรงตามมาตรฐาน และมีใบรับรองจากสมาคมที่น่าเชื่อถือ เช่น The Kennel Club (TKC) หรือ American Kennel Club (AKC) ราคาอาจสูงถึง 80,000-200,000 บาท โดยเฉพาะดัชชุนที่มีสีขนหายาก เช่น สีลายเสือ (Dapple) หรือมีลักษณะขนพิเศษอย่างขนแข็ง (Wire-haired) ที่พบได้น้อยในประเทศไทย


สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณานอกเหนือจากราคา คือประวัติและความน่าเชื่อถือของฟาร์มผู้เพาะพันธุ์ สุขภาพของลูกสุนัข และค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว เนื่องจากดัชชุนเป็นสุนัขที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเฉพาะพันธุ์ โดยเฉพาะโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง การเลือกซื้อจากฟาร์มที่มีมาตรฐานและมีการคัดกรองพ่อแม่พันธุ์ที่ดี แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพในอนาคตได้


สำหรับใครที่มองหาแหล่งซื้อตัวน้อง ๆ อยู่ ทางเราก็ได้เตรียมลิสต์ฟาร์มสุนัขพันธุ์ดัชชุนในประเทศไทยมาให้แล้ว มีที่ไหนบ้าง ไปเลือกดูกันได้เลย 


5 อันดับฟาร์มหมาพันธุ์ดัชชุน (Dachshund) ยอดนิยมในประเทศไทย



 

ดัชชุนหรือเจ้าหมาไส้กรอกถือเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร แม้จะต้องการการดูแลเป็นพิเศษในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องกระดูกสันหลังและน้ำหนักตัว แต่ความรักและความจงรักภักดีที่พวกเขาจะมอบให้เรานั้นคุ้มค่าเกินกว่าจะประเมินได้ 


สำหรับใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงดัชชุน สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและเตรียมความพร้อมทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแล เพราะดัชชุนต้องการมากกว่าแค่อาหารและที่พักอาศัย พวกเขาต้องการความรัก การใส่ใจ การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เสมือนเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว 


การเลือกอาหารที่มีคุณภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุด ควรเลือกอาหารที่เหมาะกับขนาดตัวและวัยของดัชชุน มีโปรตีนคุณภาพดี และมีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน ยังไงเราก็ขอฝาก Yora อาหารสุนัขเกรด Holistic นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำมาจากโปรตีนแมลง ย่อยง่าย ให้โภชนาการสูง ไว้ด้วยนะครับ



9 views0 comments

Comments


bottom of page