หมาหน้าย่น เจ้าหมาสายพันธุ์หน้าสั้น ที่มีเอกลักษณ์ผิวหนังย่น มีความน่ารักเป็นของพวกมันเองที่ไม่ว่าใครเห็นก็อยากจะเข้าไปขยำ เข้าไปกอดพวกมันอยู่ตลอด ทุกคนอาจจะกำลังสงสัยว่าหมาหน้าย่น มีพันธุ์อะไรบ้าง? วันนี้ Yora Thailand ได้รวบรวม 9 สายพันธุ์หมาหน้าย่น ประจำปี 2024 ทั้งหมาหน้าย่นตัวเล็ก ตัวใหญ่ พร้อมลักษณะนิสัยและวิธีการดูแล ให้พี่ ๆ ที่สนใจและกำลังศึกษาอยู่ เผื่อเป็นแนวทางช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น มาเริ่มกันที่อันดับแรกเลยครับ
1. ปั๊ก (Pug)
เริ่มต้นมาด้วยความน่ารักแบบเต็มอิ่มจาก น้องหมาปั๊ก หมาพันธุ์เล็ก มีลักษณะใบหน้าสั้นพร้อมหน้าตาที่ดูเครียดและกังวลตลอดเวลา เป็นจุดเด่นที่ทำให้พวกมันดูตลกน่าเอ็นดูอยู่เสมอ แต่จริง ๆ แล้วมาจากรอยย่นบนหน้า แถมยังเป็นน้องหมาที่น่ารัก ใจดีมาก ๆ ไม่ว่าใครเห็นก็อดขำและอยากไปกอด แถมมันยังสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง น้องหมาปั๊กมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน แต่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบยุโรป
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์ปั๊ก
การเลี้ยงดูเจ้าปั๊กไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ด้วยโครงหน้าที่สั้น และผิวหนังที่ย่นทำให้เจอปัญหายิบย่อยที่ต้องคอยป้องกัน โดยหมาพันธุ์นี้จะไม่ถูกกับอาการร้อนชื้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดฮีทสโตรกได้ และอีกทั้งดวงตาที่ใหญ่ ต้องคอยดูแลดี ๆ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แถมปกติแล้วปั๊กจะชอบอยู่กับบ้าน ไม่ชอบออกกำลังกายหนัก เจ้าของบ้านต้องพาออกไปเดินเล่นบ้าง จะได้ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป ที่สำคัญเลย อย่าลืมทำความสะอาดรอยย่นบนหน้าเพื่อป้องกันโรคทางผิวหนังด้วย
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์ปั๊ก
อย่างที่กล่าวว่าเจ้าปั๊กต้องควบคุมน้ำหนักเสมอ เพราะว่าหมาพันธุ์นี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคอ้วนสูงมาก ด้วยนิสัยที่รักการกิน เจ้าของจึงควรให้กินอาหารวันละ ½-1 ถ้วย และแบ่งเป็น 2 มื้อ โดยไม่ควรให้กินขนมตามใจปาก เน้นไปที่อาหารตามช่วงอายุ ที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์และโปรตีนสูง ให้พลังงานต่ำ เพื่อที่จะได้ “อิ่มแต่ไม่อ้วน” นั่นเอง
ราคาหมาพันธุ์ปั๊ก
4,000 - 10,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสี ลักษณะทางกายภาพ และสายเลือด)
2. อิงลิช บูลด็อก (English Bulldog)
น้องหมาหน้าย่นขนาดกลาง 1 ใน 3 ของตระกูลบูลด็อก (อีก 2 สายพันธุ์ได้แก่ อเมริกันบูลด็อก และ เฟรนช์บูลด็อก) เจ้าหมาขาโหดจากเมืองผู้ดีอังกฤษ ที่ถูกเรียกว่า “Bull” เพราะเมื่อก่อนมักนำมาใช้ในการต่อสู้กับวัว ณ ปัจจุบัน เจ้าอิงลิช บูลด็อกได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นน้องหมาที่เชื่องและอ่อนโยนต่อเด็ก เจ้าบูลด็อกพันธุ์นี้มีลักษณะ ตัวใหญ่ หัวใหญ่ หน้าผากย่น หูเล็ก ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเอ็นดูกับหน้าตาของมันแน่นอน
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์อิงลิช บูลด็อก
ด้วยลักษณะผิวหนังที่ย่น ทำให้เจ้าของอิงลิช บูลด็อกต้องใส่ใจกับผิวหนังเป็นพิเศษเหมือนกับหมาปั๊ก โดยต้องทำความสะอาดตรงรอยย่อน และหมั่นพาไปออกกำลังกายบ่อย ๆ เพื่อป้องกันโรคอ้วน เช่นกันด้วยจมูกที่สั้น ที่ทำให้ไวต่อความร้อน เจ้าบูลด็อกไม่ควรอยู่ในที่ ๆ อากาศร้อนชื้นเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เกิดฮีทสโตรกได้
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์อิงลิช บูลด็อก
งานวิจัยเกี่ยวกับบูลด็อกพบว่า 75% ของหมาพันธุ์นี้ มีปัญหาเกี่ยวกับกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะ เจ้าของควรใส่ใจเรื่ิองอาหารการกินเป็นพิเศษ โดยอาหารควรมีส่วนผสมที่ย่อยง่าย ไม่แน่น และไม่รสเค็มหรือหวานจัดเกินไป และต้องคอยควบคุมปริมาณให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว อายุ และการออกกำลังกายของน้องหมาด้วย
ราคาหมาพันธุ์อิงลิช บูลด็อก
8,000 - 30,000 บาท
3. เฟรนช์บูลด็อก (French Bulldog)
เรียกสั้น ๆ ว่า “เฟรนช์ชี่” อีกหนึ่งน้องหมาหน้าย่นขนาดเล็ก ในตระกูลบูลด็อก แน่นอนว่ามีเชื้อสายมาจากประเทศฝรั่งเศส ต้นกำเนิดมาจากการผสมพันธุ์ของอิงลิช บูลด็อก และ บอสตันเทอร์เรีย ลักษณะเด่นของมันคือ หน้าสั้น หูตั้ง ตัวเล็กแต่กล้ามเนื้อแน่นกำยำ ไม่ว่าใครก็ติดใจกับนิสัยอันขี้อ้อน ไม่ก้าวร้าว เห่าน้อย แถมยังแข็งแรงมากอีกด้วย
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก
เนื่องจากมีใบหน้าและจมูกที่สั้น เจ้าเฟรนช์บูลด็อกจึงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจบ่อย ๆ ถ้าน้องหมาหายใจทางปากถี่บ่อยขึ้น ให้รีบนำเข้าที่ร่มหรือห้องแอร์เพื่อป้องกันอาการฮีทสโตรก หรือเอาน้ำราดตัวเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายให้ไวที่สุด การออกกำลังกายอาจจะไม่ต้องหนักมาก เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ให้ขยับร่างกายบ้างจะดีมาก แถมยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อให้สวย กำยำอยู่สม่ำเสมอด้วย
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์เฟรนข์บูลด็อก
เนื่องจากลำไส้ของน้องเฟรนช์ บูลด็อก ใหญ่และสะสมแบททีเรียได้มากกว่าพันธุ์อื่น ๆ จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดท้องอืดได้ง่าย เจ้าของควรเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีน และพรีไบโอติกเพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ให้ขับถ่ายง่าย ไม่ปวดท้อง และควบคุมปริมาณให้พอเหมาะกับน้ำหนักตัวและการออกกำลังกาย
ราคาหมาพันธุ์เฟรนข์บูลด็อก
7,000 - 50,000 บาท
4. บูลมาสทิฟฟ์ (Bullmastiff)
เจ้าหมาหน้าย่นตัวใหญ่ แข็งแรง จมูกไว! เป็นอีกพันธุ์ผสมของหมาบูลด็อกและหมามาสติฟฟ์ ลักษณะเด่นของมันคือศรีษะที่กว้าง ปากย่นสั้น ทรงสี่เหลี่ยม มีพละกำลังล้นหลาม คล่องแคล่ว และประสาทการรับกลิ่นไวมาก ด้วยความที่มีนิสัยขี้ระแวงกับคนแปลกหน้า ผู้คนมักจะเลี้ยงน้องไว้เฝ้าบ้าน หรืองานเฝ้ายามอยู่บ่อย ๆ
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์บูลมาสทิฟฟ์
ถึงแม้ว่าเจ้าบูลมาสทิฟฟ์จะสุภาพ เป็นมิตรกับคนในบ้าน แต่ด้วยพละกำลังอันมหาศาลของมัน ถ้าในครอบครัวมีเด็กอยู่ด้วย อาจจะต้องคอยควบคุมการเล่นของมัน ไม่ให้หนักหรือแรงเกิน เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ถึงแม้จะขนาดตัวใหญ่ เจ้าหมาพันธุ์นี้ก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก เดินเล่นเพียง 2-3 ครั้งต่อวัน จะทำให้ไม่เครียดและเพียงพอต่อความต้องการของพวกมัน และอย่าลืมที่จะพาพวกมันไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันโรคภัยอย่างมะเร็ง หรือปัญหาด้านกระดูกข้อต่อต่าง ๆ ด้วย
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์บูลมาสทิฟฟ์
โดยทั่วไปหมาพันธุ์นี้มักจะสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่ควรระวังในเรื่องของอาหารการกิน เพราะน้ำหนักจะเพิ่มง่ายมาก ดังนั้นการแบ่งอาหารเป็นมื้อ ๆ จะตอบโจทย์กว่าการทาน 1 มื้อใหญ่ต่อวัน
ราคาหมาพันธุ์บูลมาสทิฟฟ์
30,000 - 50,000 บาท
5. บ็อกเซอร์ (Boxer)
น้องหมาบ็อกเซอร์ หมาหน้าย่น สุดเฟรนด์ลี่ เอเนอจี้ล้นหลามไม่ต่างจากพันธุ์อื่น ๆ ลักษณะเด่นของมันคือหัวทรงสี่เหลี่ยม และขนาดปากที่รับกับทรงหัว ทำให้พวกมันดูสง่างาม พร้อมอุปนิสัยที่ตื่นตัว กะตือรือร้นอยู่เสมอ ถ้าหมั่นฝึกฝนการเข้าสังคมตั้งแต่เด็ก จะทำให้พวกมันโตมามีนิสัยเป็นมิตรกับคนรอบข้าง และในทางกลับกันอาจจะมีนิสัยดุร้าย หากเจ้าบ็อกเซอร์รู้สึกไม่ปลอดภัย
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์
บ็อกเซอร์เป็นหมาที่ต้องการการออกกำลังกาย เป็นเวลานาน อย่างสม่ำเสมอ โดยเจ้าของอาจจะพาพวกมันไปวิ่ง คาบกิ่งไม้ หรือเดินเล่นสัก 45 นาที - 1 ชั่วโมงต่อวัน ในสภาพอากาศที่ไม่ร้อนหรือเย็นจัดเกินไปกำลังดี และหมั่นพาไปตรวจสุขภาพบ่อย ๆ เพราะพวกมันจะมีปัญหาในด้านข้อต่อและกระดูกเสื่อม ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ ที่สำคัญต้องคอยเช็ดและทำความสะอาดผิวหนังบ่อย ๆ เนื่องจากพวกมันมีขนที่สั้น อาจจะทำให้เกิดราและยีสต์เกาะได้หากตัวไม่สะอาด
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์บ็อกเซอร์
แน่นอนว่าพลังงานอันล้นหลาม ก็ส่งผลต่อนิสัยการกินของพวกมันด้วยเช่นกัน บ็อกเซอร์กินไว กินเยอะ เสี่ยงต่อสภาวะลำไส้บิด ทางที่ดีพี่ ๆ เจ้าของบ็อกเซอร์ควรแบ่งอาหารเป็น 2 มื้อ มื้อละถ้วย ให้พวกมันค่อย ๆ กิน และแบ่งปริมาณตามอายุ น้ำหนัก และระบบเผาผลาญของพวกมันด้วย
ราคาหมาพันธุ์บ็อกเซอร์
8,000 - 20,000 บาท
6. ชาเป่ย (Sharpei)
เจ้าหมาสายพันธุ์จีน มณฑลกวางตุ้ง ที่มีลักษณะโดดเด่นด้านความยับยู่ยี่ที่สุด ในบรรดาเจ้าหมาหน้าย่น เพราะเจ้าซาเป่ยมีผิวหนังยับย่นตั้งแต่หัวไปจรดเท้า ไม่ว่าใครเห็นก็รู้สึกเอ็นดู อยากขย้ำ เข้าไปกอดพวกมันแน่นอน เจ้าชาเป่ยมีลักษณะนิสัยสุขุม มาดนิ่ง อาจจะดูหยิ่งและไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า แต่พวกมันซื่อสัตย์และขี้ประจบเจ้าของสุด ๆ พวกมันจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุนัขเฝ้าบ้าน
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์ชาเป่ย
ด้วยความย่นไปทั้งตัว อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดความอับชื้นได้ง่าย เจ้าชาเป่ยจึงเป็นหมาหน้าย่นประเภทที่ต้องการความสะอาดเป็นอยากสูง หมั่นทำความสะอาด พาไปอาบน้ำบ่อย ๆ ระมัดระวังเรื่องกระดูก และข้อสะโพกต่าง ๆ รวมถึงโรค Sharpei Fever ที่จะเกิดขึ้นในสุนัขสายพันธุ์จีนโดยเฉพาะ โดยจะมีอาการข้อต่อหลังบวม ไข้ขึ้น เบื่ออาหาร ดังนั้นอย่าลืมที่จะพาเจ้าชาเป่ยไปตรวจสุขภาพ ถ่ายพยาธิ และฉีดวัคซีนประจำปีทุกครั้งนะครับ
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์ชาเป่ย
เจ้าชาเป่ยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่สีสังเคราะห์ วัตถุกันเสียและเนื้อแดง รวมถึงข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะจะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ และที่สำคัญควรจัดสรรปริมาณและมื้ออาหารให้เหมาะกับอายุและน้ำหนักของพวกมันด้วย
ราคาหมาพันธุ์ชาเป่ย
7,000 - 30,000 บาท
7. บอสตัน เทอร์เรีย (Boston Terrier)
บอสตัน เทอร์เรีย หรือที่รู้จักกันว่า “สุภาพบุรุษอเมริกา” เป็นหมาหน้าย่นขนาดเล้ก ลูกผสมของเจ้าบูลด็อกและไวท์อิงลิชเทอร์เรีย ลักษณะเด่นของมันคือลักษณะหัวที่คล้ายกระสุนปืน หูตั้ง หน้าตาเป็นมิตร และใบหน้าที่ย่นเล็กน้อย แถมหางที่สั้นกุด ทำให้เวลาเดิน หรือหางกระดิก มีท่าทางตลก น่าเอ็นดู ทำให้ใครเห็นก็ต่างหลงรักกันเป็นแถบ ๆ เจ้าบอสตัน เทอร์เรีย มีนิสัยร่าเริง เป็นมิตรกับทุกคน แถมยังชอบเลียนแบบนิสัยคนอีกด้วย
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์บอสตัน เทอร์เรีย
ด้วยความที่เป็นหมาพันธุ์เล็ก พวกมันจึงไม่ต้องการการออกกำลังกายที่หักโหม เพียงพาไปเดินเล่นในพื้นที่อากาศปลอดโปร่งวันละ 15-30 นาที ก็เพียงพอ เจ้าบอสตัน เทอร์เรียมีขนที่สั้น จึงไม่ถูกกับอากาศร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไปได้ ที่สำคัญเจ้าหมาหน้าย่นพันธุ์นี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับตาต่าง ๆ เช่นภาวะต้อกระจก เชอร์รี่อาย หรือกระจกตาเป็นแผล เจ้าของจึงต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์บอสตัน เทอร์เรีย
เจ้าบอสตัน เทอร์เรีย ช่างเลือก ขี้เหนียวและบางทีก็กินยาก เจ้าของต้องคอยดูปริมาณและส่วนผสมของอาหารให้เหมาะสมกับอายุและน้ำหนัก ซึ่งการกินอาหารพรีเมี่ยม คุณภาพดีจะช่วยให้พวกมันสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาวได้
ราคาหมาพันธุ์บอสตัน เทอร์เรีย
8,000 - 30,000 บาท
8. บลัดฮาวด์ (Bloodhound)
เจ้าหมาบลัดฮาวด์ (Bloodhound) เรียกได้ว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ ที่มีความสามารถในการตามกลิ่นที่เป็นเลิศ เป็นที่รู้จักในฐานะสุนัขนักสืบ เพราะนิยมในงานตำรวจอย่า่งการดมกลิ่นผู้ร้ายหรือสารเสพติด สายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นคือหน้าย่น ๆ มีรอยพับบริเวณใบหน้าและคอ ส่วนนิสัยของเจ้าบลัดฮาวด์นั้นบอกเลยว่า ใคร ๆ ก็ต้องหลงรัก เพราะพวกเค้าสุภาพ เรียบร้อย มีความอดทนสูง เล่นกับเด็ก ๆ ได้ แต่ห้ามแหย่โดยการแกล้งแย่งของนะ เพราะพวกเค้าหวงของที่เค้ารักเอามาก ๆ!
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์
การดูแลสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์ต้องให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย เพราะพวกเค้าเป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง ควรพาไปเดินเล่นและทำกิจกรรมเป็นประจำ แต่ไม่หนักจนเกินไป อย่างน้อย 20 นาที นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดรอยพับตามตัวของน้อง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและปัญหาผิวหนัง และด้วยความที่เป็นหมาขนสั้น การแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์บลัดฮาวด์
อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์ควรมีโปรตีนสูงเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนากล้ามเนื้อ เลี่ยงอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูงเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพเช่นโรคอ้วน การให้ขนมขบเคี้ยวควรเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น นอกจากนี้ ก็มีข้อควรระวังอีกเรื่องคือ พวกเค้าเป็นสุนัขที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความสุดยอดทางการดมกลิ่น ทำให้มักเจอความผิดปกติทางพันธุกรรม พ่อ ๆ แม่ ๆ ควรพาน้อง ๆ ไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำหากพบว่าอาการผิดปกติด้วยนะครับ
ราคาหมาพันธุ์บลัดฮาวด์
30,000 - 50,000 บาท
9. บาสเซ็ทฮาวด์ (Basset Hound)
เจ้าหมาหน้าย่นตัวสุดท้าย บาสเซ็ทฮาวด์ (Basset Hound) น้องหมาที่หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากการ์ตูน Fred the Basset หรือแม้แต่จากโฆษณาของ Hush Puppies น้อง ๆ สายพันธุ์นี้โดดเด่น ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ แต่มีขาสั้น เรียกว่าโหลดต่ำกันมาเลย อีกทั้งยังมีใบหูยาว ๆ และผิวที่หย่อนทั่วทั้งตัวและใบหน้า ทำให้ลุคดูหงอย ๆ จนอยากเข้าไปฟัดไปโอ๋ ลักษณะนิสัยบาสเซ็ทฮาวด์นั้นถือว่าเป็นมิตรและเข้ากับเด็กๆ ได้ดี น้องเป็นสุนัขที่แสนฉลาด แต่อาจมีซนบ้าง ควรได้รับการฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ นะครับ
วิธีดูแลสุนัขพันธุ์บาสเซ็ทฮาวด์
สำหรับหมาบาสเซ็ทฮาวด์นั้น น้อง ๆ ต้องการเอาใจใส่เรื่องน้ำหนักและข้อขา เพราะมีขนาดตัวที่ใหญ่แต่ขนาดขาสั้น ทำให้ต้องรับน้ำหนักเยอะ ควรดูแลเรื่องการกินเพื่อให้เกิดโรคอ้วนและพาออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไม่ควรมากเกินไปเพราะอาจทำให้ข้อขาเสื่อมได้ นอกจากนี้ก็ควรหมั่นทำความสะอาดหูอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อาหารการกินสำหรับหมาพันธุ์บาสเซ็ทฮาวด์
อาหารสำหรับบาสเซ็ทฮาวด์ควรเป็นอาหารสุนัขพันธุ์ใหญ่ มีโปรตีนสูงและไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและสุขภาพของผิวหนัง ควรเลือกอาหารที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อสัตว์ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง เพราะสายพันธุ์นี้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
ราคาหมาพันธุ์บาสเซ็ทฮาวด์
20,000 - 40,000 บาท
เจ้าหมาหน้าย่นทั้งหลายไม่ได้เลี้ยงยากอย่างที่คิด เพียงหมั่นใส่ใจในร่างกายและสภาพจิตใจของพวกมันก็จะทำให้น้องหมาแข็งแรงอยู่กับเราไปนาน ๆ ได้ และที่สำคัญที่สุดในเรื่องของอาหารการกิน ควรเลือกอาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม ที่ให้โภชนาการสูง ดีต่อสุขภาพน้องหมาและโลก พวกเราจึงขอฝาก Yora อาหารหมาเกรดพรีเมี่ยมจากโปรตีนแมลง เจ้าแรกของประเทศไทยด้วยนะครับ
This blog discusses several adorable dog breeds known for their distinct wrinkles, such as the Shar Pei, Bulldog, and Pug. These dogs are not only cute but also have unique personalities. Wrinkled breeds often need extra care, particularly when it comes to maintaining skin hygiene to prevent infections. For more insights, visit the blog directly! For any pet care needs or products, Industrial Cart offers excellent solutions. Visit us at Industrial Cart!